น้อง ๆ ที่กำลังวางแผนการเรียนต่อต่างประเทศ มักตั้งคำถามกันว่า “จะไปเรียนต่อที่ประเทศอะไรดี?” ซึ่งคำถามนี้หลาย ๆ คนคงมีวิธีตัดสินใจและชั่งน้ำหนักแตกต่างกันไป ประเทศที่เป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับการไปเรียนต่อมีสามประเทศนั่นก็คือ United Kingdom (UK) 🇬🇧 , United States (US) 🇺🇸 และ Australia 🇦🇺 และเมื่อตัดสินใจได้แล้วว่าจะไปที่ประเทศไหน น้อง ๆ ส่วนมากก็จะมุ่งหน้าหามหาวิทยาลัยชื่อดังในประเทศนั้นเลย
แต่พี่ Hands On อยากจะบอกว่าปัจจัยสำคัญอีกอย่างคือ “เมือง” ที่เราเลือกไปอยู่ระหว่างเรียน อย่าลืมว่าเราไม่ได้ไปท่องเที่ยวในระยะเวลาสั้น ๆ เราต้องไปอยู่กินที่นั่นในฐานะนักเรียนอย่างน้อย 1 ปี เพราะงั้นพี่ ๆ เลยรวมลิสต์รายชื่อเมืองที่น่าไปเรียนต่อ เหมาะสำหรับนักเรียนต่างชาติ พร้อมกับแนะนำมหาวิทยาลัยชั้นนำและสถาบันสอนภาษาในเมืองนั้นด้วย
บทความนี้พี่ ๆ จะมาแนะนำเมืองน่าเรียนต่อจากทั้ง 3 ประเทศยอดฮิต จากการจัดอันดับของ QS World University Ranking
1st London, United Kingdom 🇬🇧
⭐️ Overall Score: 100 / 100
เริ่มกันที่เมืองที่น่าไปเรียนต่อที่สุดในโลกปี 2025 อย่างกรุงลอนดอนที่ประเทศอังกฤษ ที่มี Overall Score สูงถึง 100 คะแนนเต็ม พูดได้เต็มปากว่าเป็นเมืองที่เหมาะกับการไปเรียนต่อที่สุดของโลก เหตุผลหลัก ๆ เป็นเพราะ มีคะแนน “ความคิดเห็นนักศึกษา” สูงมาก รวมถึงมีมหาวิทยาลัยคุณภาพระดับโลกอยู่ในเมืองเป็นจำนวนมาก
🎓 Top Universities
- King’s College London
- Queen Mary, University of London
- City, University of London (Bayes Business School) เป็นต้น
🔡 Top English Schools สำหรับน้อง ๆ ที่วางแผนไปเรียนภาษาอังกฤษ ที่ London
5th Melbourne, Australia 🇦🇺
⭐️ Overall Score: 97.1 / 100
เมืองขึ้นชื่อของออสเตรเลียอย่างเมลเบิร์นได้คะแนน Overall Score 97.1 เมลเบิร์นได้คะแนน “ความพึงพอใจของนักศึกษา” และ “คุณภาพชีวิตที่ตอบโจทย์” เยอะกว่าอันดับ 1 อย่างลอนดอนอีกนะ เมลเบิร์นเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องความปลอดภัยและความเป็นอยู่ที่สบาย เป็นมิตร และไม่วุ่นวาย อีกทั้งยังได้คะแนน “สัดส่วนนักศึกษา” เต็ม 100 อีกด้วย
🎓 Top Universities
🔡 Top English Schools สำหรับน้อง ๆ ที่วางแผนไปเรียนภาษาอังกฤษ ที่ Melbourne
6th Sydney, Australia 🇦🇺
⭐️ Overall Score: 95.4 / 100
เมืองหลวงของรัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย ที่ได้คะแนนโดยรวม 95.4 ซึ่งคะแนนแต่ละช่องก็มีความไล่เลี่ยเท่า ๆ กับเมลเบิร์นเลย ซึ่งสิ่งที่จะแตกต่างกันเป็นหลักคือเป็นเรื่องของไลฟ์สไตล์ ซิดนีย์จะมีสีสันและสถานที่ท่องเที่ยวเยอะกว่าในเมลเบิร์น
🎓 Top Universities
🔡 English Schools สำหรับน้อง ๆ ที่วางแผนไปเรียนภาษาอังกฤษ ที่ Sydney
13th Edinburgh, United Kingdom 🇬🇧
⭐️ Overall Score: 90.5 / 100
เมืองเอดินบะระที่ตั้งอยู่ในประเทศสกอตแลนด์ ใครที่สนใจอยากเรียนต่อใน UK แต่ไม่อยากไปอยู่ที่อังกฤษ เมืองนี้ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีอันดับ 1 เลย เพราะที่นี่ได้คะแนน Overall Score ถึง 90.5 ซึ่งสิ่งที่เอดินบะระดีกว่าลอนดอนคือมีคะแนน “สัดส่วนนักศึกษา” ที่สูงกว่า และมี “ความคุ้มค่าและราคาที่เอื้อมถึง” มากกว่า
🎓 Top Universities
🔡 Top English School สำหรับน้อง ๆ ที่วางแผนไปเรียนภาษาอังกฤษ ที่ Edinburgh
- British Study Centres
- Kaplan International Languages เป็นต้น
16th Boston, United States 🇺🇸
⭐️ Overall Score: 89 / 100
เมืองหลวงของรัฐแมสซาชูเซตส์ในสหรัฐอเมริกา ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่เหมาะกับการเรียนต่อที่สุดอันดับ 1 ใน USA เนื่องจากได้คะแนนสูงสุดถึง 89 คะแนน จุดเด่นของบอสตันคือมีอัตราการจ้างงานสูงและผู้ว่าจ้างมีคุณภาพ และถึงจะเป็นอันดับที่ 16 ของโลก แต่ในเมืองบอสตันก็มีมหาวิทยาลัยชั้นนำอยู่มากมาย
🎓 Top Universities
🔡 Top English Schools สำหรับน้อง ๆ ที่วางแผนไปเรียนภาษาอังกฤษ ที่ Boston
- The New England School of English
- EC English Language Centres
- Language Studies International เป็นต้น
18th New York, United States 🇺🇸
⭐️ Overall Score: 87.4 / 100
มหานครนิวยอร์ก เมืองแห่งแฟชั่น ความบันเทิง ธุรกิจระดับโลก และยังติดอันดับต้น ๆ ของเมืองที่น่าไปเรียนต่ออีกด้วย ด้วยคะแนน Overall สูงถึง 87.4 ซึ่งคะแนนแต่ละช่องสูงมาก ใครที่กำลังลังเลใจอยู่ เริ่มเก็บข้อมูลมหาวิทยาลัยใน NYC ได้เลย โอกาสในการสร้างประสบการณ์ชีวิตที่ดีอยู่ที่นี่แล้ว
🎓 Top Universities
🔡 Top English Schools สำหรับน้อง ๆ ที่วางแผนไปเรียนภาษาอังกฤษ ที่ New York
ทั้งหมดนี้คือรายชื่อและข้อมูลเมืองที่เหมาะกับการไปเรียนต่อคร่าว ๆ ซึ่งอ้างอิงจาก QS Best Student Cities 2025 🇬🇧🇺🇸🇦🇺 ทั้งนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าเมืองอื่น ๆ ที่ไม่ได้อยู่ในลิสต์จะไม่เหมาะกับการไปเรียนต่อ แต่ละเมืองมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน บางเมืองรองก็มีเสน่ห์ที่ใครได้ไปใช้ชีวิตอยู่จะต้องหลงรัก น้อง ๆ ควรศึกษาเมืองที่เราจะไปเรียนต่อให้เต็มที่เพื่อได้รับประสบการณ์การเรียนต่อที่ดีที่สุด
ถ้าอยากได้คำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ ก็สามารถติดต่อกับพี่ ๆ Hands On ได้เลย พี่พร้อมดูแลและบริการวางแผนการเรียนต่อต่างประเทศให้ฟรี