น้อง ๆ บางคนที่ศึกษาเกี่ยวกับการเรียนต่อมาเป็นเวลานานแล้ว จะเข้าใจถึงความหมายของแต่ละรางวัลที่มหาวิทยาลัยได้มา ซึ่งรางวัลพวกนี้จะมีเกณฑ์การให้ที่เคร่งครัด เพื่อรักษาคุณค่าไว้มอบให้แก่มหาวิทยาลัยที่เหมาะสม และรางวัลระดับนานาชาติเหล่านี้ ก็จะเป็นสัญลักษณ์ที่การันตีถึงคุณภาพของมหาวิทยาลัยนั่นเอง
พี่ Hands On จึงอยากแนะนำให้น้อง ๆ ได้รู้จักกับ 3 รางวัลที่มอบให้แก่ท็อปยูใน UK พร้อมไขข้อสงสัยว่ารางวัลนี้มีเกณฑ์การให้ยังไง? แสดงถึงอะไร? และ มีรางวัลไหนควรนำมาใช้ตัดสินใจไปเรียนต่อ? พี่ ๆ สรุปมาให้หมดแล้วในบทความนี้
ทำไมรางวัลถึงเป็นเรื่องใหญ่?
รางวัลช่วยให้มหาวิทยาลัยมีภาพลักษณ์ที่ดีและน่าเชื่อถือมากขึ้น สร้างชื่อเสียงให้ผู้คนภายนอกเห็นถึงความเชี่ยวชาญและผลงานสำคัญที่มหาวิทยาลัยประสบความสำเร็จ ในขณะเดียวกันยังเป็นสัญลักษณ์และแรงจูงใจ ที่ช่วยกระตุ้นให้ ผู้เรียนและอาจารย์มุ่งมั่นสร้างผลงาน ด้านการวิจัย, การศึกษา และกิจกรรมต่าง ๆ ที่สามารถทำให้มหาวิทยาลัยพัฒนาให้ดีขึ้นไปอีกระดับ
เพื่อที่จะได้เรียนในมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุด น้อง ๆ ต้องศึกษาเรื่องรางวัลให้เคลียร์ บางรางวัลจะแสดงถึงความเชี่ยวชาญ ที่จะสามารถรับประกันคุณภาพของหลักสูตรที่เราเรียน หรือบางครั้งการได้รับการยอมรับจากองค์กรหรืออุตสาหกรรมต่าง ๆ ก็ทำให้ผู้เรียนมีโอกาสได้ Connection ผ่านทางมหาวิทยาลัยโดยปริยาย แน่นอนว่าเมื่อเรียนจบมาก็จะถูกจับตามองจากผู้ว่าจ้างมากกว่า
🏆✨🇬🇧 รางวัลใหญ่แก่มหาวิทยาลัยแห่งปี University of the Year Award
สำหรับมหาวิทยาลัยในสหราชอาณาจักร “University of the Year” เป็นหนึ่งในรางวัลที่ทรงคุณค่าที่สุดที่จะได้รับ เพราะแต่ละปีมีแค่มหาวิทยาลัยแห่งเดียวเท่านั้นที่จะได้รับรางวัลนี้ โดยผู้ที่มอบรางวัลจะมีอยู่สองแหล่งหลัก ๆ นั่นก็คือ Times Higher Education (THE) สื่อที่เกี่ยวกับการศึกษาที่มีชื่อเสียงระดับโลก และ The Sunday Times ที่เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มหนังสือพิมพ์ The Times อันโด่งดัง
ในแง่ของเกณฑ์การตัดสินทางคณะกรรมการจะพิจารณาจากหลายปัจจัยดังนี้
- คุณภาพด้านวิชาการรวมถึงการสอน
- ผลประโยชน์จากงานวิจัยที่มหาวิทยาลัยทำ
- ความพึงพอใจของนักศึกษา
- สร้างความเปลี่ยนแปลงที่ดีในสังคมได้
- ที่สำคัญที่สุดในปีนี้มีผลงานหรือพัฒนาการที่ยิ่งใหญ่ในแวดวงการศึกษาของ UK
💡 Fun Fact!
กระบวนการมอบ University of the Year จะมีการ Shortlisted หรือการรวบรวมรายชื่อมหาวิทยาลัยที่เข้าชิงรางวัลนี้ ซึ่งมีได้หลายรายชื่อ และเมื่อตัดสินผู้ชนะจะมีการประกาศอันดับสองด้วย เรียกว่า “Runner-up” ซึ่งมหาวิทยาลัยที่ติดใน Shortlisted ก็นับว่าเป็นมหาวิทยาลัยที่โดดเด่นมากแล้วในปีนั้น อีกด้านนึง Runner-up ก็เหมือนเป็นตำแหน่งที่สูงรองลงมาจากผู้ชนะซึ่งจะมีรายชื่อเดียวเช่นกัน |
ตัวอย่างมหาวิทยาลัยที่เคยได้รับรางวัลนี้ 🇬🇧
- Ulster University (Times Higher Education 2024)
- University of Bath (Sunday Times 2023)
- Northumbria University (Times Higher Education 2022)
- Loughborough University (Sunday Times 2019) เป็นต้น
🥇🥈🥉 The Teaching Excellence Framework (TEF)
โครงการระดับชาติที่ดำเนินการโดย Office for Students (OfS) ที่จะประเมินและให้คะแนนมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ว่ามีคุณภาพและมาตรฐานอยู่ในระดับใดจากทั้ง 4 ระดับโดยมีรายละเอียดดังนี้
- ระดับ GOLD: ระดับสูงสุดที่แสดงให้เห็นถึงคุณภาพที่มีความเหนือชั้นและมีความโดดเด่น
- ระดับ SILVER: ระดับที่แสดงถึงคุณภาพที่เหนือมาตรฐานและเป็นที่ยอมรับ
- ระดับ BRONZE: ระดับที่แสดงถึงคุณภาพที่ได้มาตรฐาน
- ระดับ Requires improvement: แสดงให้เห็นถึงข้อบกพร่องที่ต้องรีบปรับปรุงและแก้ไข
เมื่อ TEF จะมอบระดับให้มหาวิทยาลัยใดก็ตาม จะมี 3 ด้านให้วิเคราะห์ ได้แก่
- Overall rating ที่จะประเมินจากภาพรวม โดยโครงการมีระบบและข้อกำหนดที่ชัดเจน
- Student experience ที่จะมอบสิทธิให้ผู้เรียนส่งผลประเมินความพึ่งพอใจให้กับโครงการ
- Student outcomes ที่โครงการจะประเมินจากสถิติต่าง ๆ ที่ได้จากมหาวิทยาลัยและแหล่งข้อมูลภายนอก
💡 Fun Fact!
ระดับ Silver ไม่ได้หมายความว่าเป็นระดับรองหรือเป็นที่สองของระดับ Gold แต่แสดงให้เห็นว่ามหาวิทยาลัยนั้นเหนือมาตรฐานแล้ว แต่ยังมีบางจุดที่สามารถพัฒนาให้ดีขึ้นอีกได้ |
ตัวอย่างมหาวิทยาลัยที่ได้ระดับ Gold 🥇 ทั้ง 3 ด้าน
- Aston University
- University of Bath
- Kingston University
- University of Exeter
- The University of Warwick เป็นต้น
🌟 🌟 🌟 Triple Crown Accreditation
น้อง ๆ คนไหนที่อยากไปเรียนต่อด้าน Business, Management หรือ MBA ต้องคอยสังเกตไว้ให้ดี “Triple Accreditation” มันเป็นเครื่องยืนยันที่ชัดเจนว่า Business School ของที่มหาวิทยาลัยนี้ ได้การรับรองมาตรฐานด้าน หลักสูตร การวิจัย อาจารย์ นักศึกษา เครือข่าย และผลงานต่าง ๆ เป็นที่ยอมรับในระดับสากลจาก 3 สถาบันทางด้านบริหารธุรกิจแล้ว แสดงให้เห็นว่าหลักสูตรมีความทันสมัยและสิ่งที่เรียนจำเป็นต่ออุตสาหกรรมจริง ๆ
- EQUIS (European Quality Improvement System) 🇪🇺
- AACSB (The Association to Advance Collegiate Schools of Business) 🇺🇸
- AMBA (Association of MBAs) 🇬🇧
💡 Fun Fact!
Business School ที่มีกว่า 13,000+ แห่งทั่วโลก มีเพียง 136 แห่ง (นับเป็น >1%) ที่ได้รับ Triple Accreditation เพราะบางทีอาจจะได้การยอมรับจากแค่ 1-2 สถาบันทางด้านบริหารธุรกิจนั่นเอง *ข้อมูลจาก MBA Today ณ กุมภาพันธ์ 2568 |
ตัวอย่างมหาวิทยาลัยที่ได้รับการรับรองแบบ Triple Accredited 🌟 🌟 🌟
- Cranfield University
- Durham University
- Lancaster University
- The University of Edinburgh
- University of Leeds
- University of Nottingham
- University of Reading
- Aston University เป็นต้น
สนใจสมัครเรียนในมหาวิทยาลัยมากรางวัล หรืออยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมในการเรียนต่อต่างประเทศ ปรึกษาพี่ Hands On ฟรี ทุกขั้นตอน!