สำหรับเพื่อน ๆ ที่กำลังจะเดินทางมาประเทศอังกฤษ อยากจะบอกว่าไม่ต้องกังวลเรื่องการเดินทางเลย เพราะ public transportation ที่นี่ทั้งสะดวกและทั่วถึงมาก เราสามารถเช็กเส้นทาง เวลาที่รถจะมาถึงและการใช้รถสาธารณะผ่าน Google maps ได้เลยไม่ว่าจะเดินทางแบบไหน รถยนต์ รถไฟ หรือรถบัส เช็ก application ได้ครบ แอปฯ มี accurate มาก ๆ ถ้าเทียบกับที่ไทย
แลนดิ้งถึง London 🛬
การมาอังกฤษครั้งแรกของเรา เราต้องเดินทางจาก London ไป Leeds ซึ่งเราเลือกนั่ง Uber จากสนามบิน Heathrow ไปลงที่สถานีรถไฟ King’s Cross เพราะกระเป๋าเราหนักมาก ไม่สามารถแบกขึ้นลง Underground train ได้ และขอแนะนำให้เพื่อน ๆ เผื่อเวลาที่ตม. เยอะ ๆ เราเผื่อไว้ 5 ชั่วโมง ยังกระชั้นชิดมาก ๆ เกือบตกรถไฟ เพราะตม. แถวยาวมาก ตอนเรามาถึง เราสมัคร Uber one ทำให้ได้ส่วนลด 10% ทุกครั้ง เป็นเวลา 3 เดือน ช่วยประหยัดไปเยอะมาก ๆ เพราะช่วงแรก ๆ ต้องเรียกรถมาช่วยขนของทั้งเดินทางเข้าหอ และขนของตอนซื้อจาก supermarket
วันเดินทางเราขึ้นรถไฟก่อนเวลานิดหน่อย เพราะกลัวไม่มีที่วางกระเป๋า ซึ่งเราโชคดีมาก เพราะที่วางสัมภาระใหญ่ ๆ น้อยมาก พนักงานรถไฟเตือนว่าถ้ากระเป๋าเราอยู่ไกลจากที่นั่ง ให้เดินไปเช็กบ่อย ๆ เผื่อมีคนขโมยตอนที่มี stop แต่ละที่ แต่โดยรวมรถไฟที่นี่นั่งสบายมาก นั่งชมวิวเพลิน ๆ แปปเดียวถึงที่หมายเลย อยากแนะนำว่าให้เช็ก platform ของรถไฟที่สถานีทุกครั้งก่อนขึ้น-ลง ถ้าไม่แน่ใจให้ถามพนักงานแถวนั้น เนื่องจากเราเคยตกรถไฟเพราะเราขึ้นผิดขบวนมาแล้วทำให้ตกรถไฟที่เราจองไว้ เสียเวลา เสียเงินไปอีก
การเดินทางและจองตั๋วรถไฟในอังกฤษ 🚂
การจองตั๋วรถไฟก็ไม่ยากเลย สามารถซื้อตั๋วที่แอปพลิเคชั่น Trainline, Trainpal, หรือ app booking อื่น ๆ ส่วนตัวเราคิดว่า Trainpal ราคาดีกว่า แล้วเราซื้อ Railcard แยกเพื่อรับส่วนลดการเดินทาง ใครที่มีแแพลนไปเมืองอื่นบ่อย ๆ ควรมี สะดวกมาก ๆ และช่วยประหยัดค่าเดินทาง บัตร railcard มีอายุ 1 ปี เราต้องซื้อตาม range อายุของเรา บัตรนี้ช่วยลดค่าเดินทาง ⅓ ของราคาทั้งหมด แล้วก็อยากแนะนำให้ทุกคนโหลดตั๋วรถไฟเก็บไว้ใน Wallet ก่อนเดินทาง เพราะเวลาพนักงานรถไฟมาตรวจ บางครั้งเราหาสัญญาณ internet บนรถไฟไม่ได้ เลยควรจะโหลดเผื่อไว้ก่อน
ในส่วนของที่นั่ง บางครั้งตอนซื้อตั๋วรถไฟ เราจะได้เลขที่นั่ง ที่เรามาสามารถเลือกนั่งตามที่ตั๋วของเราระบุ หรือถ้าเราไม่มีเลขที่นั่ง ให้หาที่นั่งว่างที่เขียนว่า available ได้เลย อยากแนะนำว่าก่อนขึ้นรถไฟ ให้ดูป้าย LED หน้ารถไฟว่ารถไฟขบวนนั้นเดินทางไปที่ไหน เพราะแต่ละ platform ที่สถานีรถไฟ จะมีรถไฟมาจอดติด ๆ กันเยอะมาก แล้วราอาจจะเข้าใจผิดแล้วขึ้นผิดได้
การปรับตัวกับการเดินทางช่วงแรก 🚌
พอเรา settle in ที่หอแล้ว เราก็เริ่มฝึกเดินทางในเมืองด้วย bus อยากแนะนำทุกคนให้โหลดแอพ Firstbus ไว้หรือแอปฯ อื่น ๆ ของรถสาธารณะแต่ละเมือง แอปพลิเคชั่นนี้สามารถ track bus ที่จะขึ้นได้ว่าจะมาตอนกี่โมง เราสามารถซื้อตั๋วรถบัสในราคานักเรียนด้วยไม่ว่าจะเป็นแบบต่อเที่ยว รายวัน รายเดือน รายเทอม หรือรายปี หรือถ้าเดินทางกับเพื่อนหลาย ๆ คนก็สามารถซื้อแบบกลุ่มได้ ประหยัดงบมาก ๆ ยิ่ง weekend ยิ่งถูก ใช้ได้ทั้งวันเลยค่ะ บางเมืองจะมี Metrolink หรือ tram สะดวกมากเช่นกัน คล้าย ๆ BTS/MRT ที่ไทยเลย จากการที่เราไปเที่ยวมาหลาย ๆ เมือง แต่ละเมืองราคา bus และ metro ค่อนข้างแตกต่างกัน เช่น Tube หรือ Underground ที่ London เราสามารถแตะบัตรของเราเข้าออกได้ทั้งวัน และทางบัตรจะ maximize ค่าเดินทางของเราแค่ 8 ปอนด์
สำหรับบัสเดินทางในเมือง Leeds ของเรา เราซื้อตั๋วบัสแบบรายเทอม ช่วยประหยัดไปเยอะมาก ๆ เพราะหอเราค่อนข้างไกลจากหอเพื่อน ๆ เลยจำเป็นต้องใช้บัสบ่อย ๆ นอกจากใช้รถสาธารณะแล้วการเดินทางในเมืองของคนที่นี่จะเน้นการเดินเป็นหลัก และด้วยสภาพอากาศและวิวของเมือง การเดินไปไหนมาไหนที่นี่เลยไม่รู้สึกลำบากหรือเหนื่อยมาก เดินเพลิน ๆ ชมเมือง หันไปทางไหนก็เหมือนสถานที่ท่องเที่ยว แนะนำให้พกรองเท้าที่เดินสบาย เหมาะแก่การเดินเยอะ ๆ มาเผื่อด้วย อีกอย่างที่ควรซื้อและพกติดตัวคือร่มแบบที่แข็งแรง เพราะสภาพอากาศที่นี่ค่อนข้างแปรปรวน ฝนตกบ่อยเลยต้องพกร่มไปเรียนเกือบทุกวัน แต่ถ้าร่มไม่แข็งแรงพอ ร่มอาจจะหักได้ เพราะที่นี่ลมแรงมากเช่นกัน
อ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่นี่:
- รีวิว MSc Management ที่ University of Leeds โดย Beaut
- รีวิวหอพักนักเรียน University of Leeds
- ทริคการสอบ IELTS แบบไม่เครียด และได้ผล
- พี่บิ้วรุ่นพี่นักเรียนอังกฤษ แจกทริคเข้าหอแบบประหยัดงบ ที่เมือง Leeds
- รีวิวการทำงาน Part-time ที่เมือง Leeds สำหรับ #ทีมนักเรียนอังกฤษ