เคลียร์ทุกข้อสงสัย GED คืออะไร ทำไมเด็กยุคนี้ถึงต้องสมัคร? แล้วผลสอบเทียบ GED เป็นทางลัดเข้ามหาวิทยาลัยที่ต่างประเทศได้จริงมั้ย? มีประเทศอื่นนอกจากสหรัฐอเมริการับผลสอบ GED หรือเปล่า? มหาวิทยาลัยไหนรับ GED บ้าง? ใครที่ยังคาใจในประเด็นเหล่านี้ ตามมา Check Fact เกี่ยวกับ GED ได้เลย
📌 GED คืออะไร?
GED หรือ General Educational Development คือ การสอบวัดผลการศึกษาที่ใช้ในระบบสมัครเรียนปริญญาตรีของสหรัฐอเมริกา (US High School Equivalency Diploma) อธิบายง่าย ๆ คือ เป็นการสอบเทียบเพื่อรับวุฒิจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 สำหรับสมัครเรียนปริญญาตรี
📌 วุฒิ GED ใช้ทำอะไรได้บ้าง?
สามารถใช้ GED ยื่นแทนใบแสดงผลการเรียนได้ (transcript) ปัจจุบัน GED เป็นวุฒิสอบเทียบที่ได้การรับรองจากกระทรวงศึกษาธิการของประเทศไทย ใช้ยื่นสมัครเรียนระดับอุดมศึกษาได้ทั้งในไทยและในต่างประเทศ และมีหลายประเทศที่ รับรองวุฒิการศึกษาของ GED ตั้งแต่ อเมริกา ออสเตรเลีย อังกฤษ แคนาดา และสิงคโปร์ เป็นต้น
📌 GED ต้องสอบอะไรบ้าง?
เนื้อหาการสอบ GED จะสอบเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด โดยเนื้อหาครอบคลุม 4 วิชา ดังนี้:
- Mathematical Reasoning (ด้านคณิตศาสตร์)
- Social Studies (ด้านสังคมศาสตร์)
- Science (ด้านวิทยาศาสตร์)
- Reasoning Through Language Arts (ด้านทักษะการใช้ภาษาและการคิดในวิชาภาษาอังกฤษ)
คะแนนเต็มสำหรับการสอบ GED จะอยู่ที่ 200 คะแนน โดยผู้สอบจะต้องได้คะแนนสอบ GED Official มากกว่า 145 คะแนนขึ้นไป จึงจะถือว่าสอบผ่านและสามารถใช้ GED สมัครเรียนต่อ ปริญญาตรีได้ โดยผลการสอบ GED จะไม่มีวันหมดอายุเพราะนับเป็นวุฒิจบการศึกษา
📌 GED ใช้เวลาสอบนานมั้ย?
ใช้เวลาสอบรวมกันทั้งหมดประมาณ 7 ชั่วโมง 5 นาที แต่ GED ไม่จำเป็นต้องสอบพร้อมกันทุกวิชา สามารถเลือกสอบแยกเองได้ ลำดับวิชาที่ใช้เวลาสอบน้อยสุดเรียงไปมากสุด ได้ดังนี้
- Social Studies (ด้านสังคมศาสตร์) 70 นาที
- Science (ด้านวิทยาศาสตร์) 90 นาที
- Mathematical Reasoning (ด้านคณิตศาสตร์) 115 นาที
- Reasoning Through Language Arts (ด้านทักษะการใช้ภาษาและการคิดในวิชาภาษาอังกฤษ) 150 นาที
📌 GED ค่าสอบเท่าไร?
เนื่องจากการสอบ GED จะมี 2 รอบทั้ง 4 วิชา แบ่งเป็น GED Ready และ GED Official โดยผู้สอบต้องสอบ GED Readyให้ผ่านก่อน 145/200 คะแนน เงื่อนไขคือถ้าหากสอบ GED Ready ไม่ผ่านจะสอบ GED Official ไม่ได้
*GED Ready อธิบายง่าย ๆ คือ การสอบ pre-test ที่น้อง ๆ จะต้องสอบให้ผ่าน ก่อนที่จะเข้าสอบ GED Official
โดยการสอบ GED Ready จะเป็นการสอบผ่านทางออนไลน์ ไม่ต้องไปศูนย์สอบ ข้อสอบจะคล้ายกับ GED Official แต่มีจำนวนข้อน้อยกว่า ใช้เวลาสอบน้อยกว่า วัตถุประสงค์ของการสอบคือ ทำให้ผู้สอบได้เห็นจุดอ่อนและจุดแข็งของตัวเอง เพื่อนำไปพัฒนาความสามารถในทุกวิชาก่อนสอบจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ |
ราคาค่าสอบ GED:
- GED Ready ค่าสอบ $7.99 ต่อวิชา (รวม 4 วิชา = $31.96)
- GED Official ค่าสอบ $85 ต่อวิชา (รวม 4 วิชา = $340)
*ค่าสอบนี้อัปเดตในเดือนสิงหาคม 2568 ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงในอนาคต โปรดเช็กข้อมูลเว็บไซต์ GED โดยตรง
📌 สอบ GED ที่ไหน?
ศูนย์สอบอย่างเป็นทางการของ GED มีอยู่หลายแห่ง โดยตั้งอยู่ที่มหาวิทยาลัยต่าง ๆ และศูนย์สอบวัดผลภาษาที่เป็นพันธมิตร ควรเช็กศูนย์สอบที่สะดวกสอบที่สุดอีกครั้งเพื่อความชัวร์
ตัวอย่างศูนย์สอบในกรุงเทพฯ และจังหวัดใกล้เคียง
- มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
- Pearson Professional Centers
- มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต (ปทุมธานี)
- มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (สมุทรปราการ)
ตัวอย่างศูนย์สอบในจังหวัดอื่น
- มหาวิทยาลัยบูรพา จังหวัดชลบุรี
- มหาวิทยาลัยพายัพ จังหวัดเชียงใหม่ เป็นต้น
📌 ใครสอบ GED ได้บ้าง?
- ผู้ที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป (แต่ต้องมีเอกสารรับรองจากผู้ปกครอง สำหรับคนที่อายุไม่ถึง 18 ปี)
- ผู้ที่ไม่ได้เรียนในระบบปรกติ (เต็มเวลา) เช่น Home School, นักกีฬา หรือ ศิลปิน เป็นต้น
- น้อง ๆ ที่ต้องการจบมัธยมปลายก่อนกำหนด (เตรียมตัว – สอบ – รับวุฒิ GED ได้ใน 3-6 เดือน)
*หมายความว่าระบบสอบเทียบนี้ น้อง ๆ ที่ยังไม่จบมัธยมปลาย ก็มีสิทธิ์สอบ GED ได้
📌 วุฒิ GED ใช้ยังไง?
เมื่อสอบเทียบ GED จนได้ผลเป็นที่พึงพอใจแล้ว น้อง ๆ จะได้ใบรับรองวุฒิ (GED Diploma) และใบรับรองผลการเรียน (GED Transcript) ทางอีเมลโดยอัตโนมัติ แต่ถ้าต้องการเอกสารดังกล่าวเป็นกระดาษหรือ hard copy จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม $15 ต่อเอกสาร 1 ใบ โดยใบประกาศนียบัตรหรือใบรับรองเพื่อยืนยันวุฒิ สามารถขอได้ถึง 3 รูปแบบ ดังนี้
- ใบรับรองเทียบวุฒิการศึกษา (High School Equivalence Certificate) – สำหรับคนที่ต้องการยื่นสมัครเรียนต่ออุดมศึกษาในต่างประเทศ ขอใบรับรองนี้ได้ผ่านระบบเทียบวุฒิการศึกษาของ High School Certificate Equivalency System (HSCES)
- ใบเทียบผลการเรียนเฉลี่ยสะสม (GPAX Equivalence Certificate) – สำหรับคนที่อยากใช้ยื่นสมัครเรียนปริญญาตรีในประเทศไทย โดยต้องขอใบรับรองเทียบวุฒิการศึกษา (Equivalence Certificate) คู่กัน
- ใบแทนใบรับรองเทียบวุฒิการศึกษา (Provisional Equivalence Certificate) – สำหรับคนที่ยังสอบเทียบ GED ไม่ครบทุกวิชา แต่สอบไปอย่างน้อย 2 วิชาแล้ว สามารถใช้เอกสารตัวนี้ยื่นสมัคร TCAS (Thai University Central Admission System) ได้
📌 GED สมัครเรียนต่อ กับมหาวิทยาลัยไหนในต่างประเทศได้บ้าง?
- Arizona State University, US 🇺🇸
- Northeastern University, US 🇺🇸
- Oregon State University, US 🇺🇸
- Pace University, US 🇺🇸
- Simmons University, US 🇺🇸
- Griffith University, Australia 🇦🇺
- Queensland University of Technology, Australia 🇦🇺
- University of Tasmania, Australia 🇦🇺
- University of Wollongong, Australia 🇦🇺
- The University of Queensland, Australia 🇦🇺
- Cardiff University, UK 🇬🇧
- University of Southampton, UK 🇬🇧
- University of Westminster, UK 🇬🇧
- Coventry University, UK 🇬🇧
- SIM Global Education, Singapore 🇸🇬
- University of Victoria, Canada 🇨🇦
- University College Dublin, Ireland 🇮🇪
- สอบถามข้อมูลมหาวิทยาลัยอื่น ๆ ได้เลยกับ Hands On
หวังว่าน้อง ๆ จะได้คำตอบกันแล้วว่า GED คืออะไร หากใครกำลังเตรียมสอบ GED ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดี เพราะ GED ถือเป็นวุฒิการศึกษาที่ได้การยอมรับอย่างกว้างขวางจากมหาวิทยาลัยทั่วโลก เพราะฉะนั้น ใครที่อยากยื่นสมัครเรียนต่อในระดับปริญญาตรี ก็จะสามารถใช้ผลสอบของ GED ยื่นสมัครเรียนต่อมหาวิทยาลัยในต่างประเทศได้ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อเตรียมตัวเรียนต่อได้เลย พี่ ๆ Hands On พร้อมดูแลฟรีทุกขั้นตอน