รีวิว Goldsmiths, University of London

รีวิวหลักสูตร MA Computational Linguistics ที่ Goldsmiths, University of London โดย Mint

  • Share this:

“สวัสดีค่ะทุกคน มิ้นท์ นะคะ ตอนนี้กำลังเรียนต่อปริญญาโท Master of Arts สาขา Computational Linguistics ที่มหาวิทยาลัย Goldsmiths, University of London ค่ะ”

Goldsmiths, University of London

ต้องเล่าก่อนว่า MA Computational Linguistics เป็นสาขาใหม่ที่เพิ่งเปิดมาเป็นปีที่ 2 ของที่นี่นะคะ ซึ่งร่วมกันพัฒนาโดยอาจารย์จาก 2 ภาควิชาคือ Computing กับ English and Creative Writing ความน่าสนใจคือ เป็นสาขาที่หาเรียนได้ยากมาก ไม่ค่อยมีมหาวิทยาลัยไหนสอนวิชาแสนเฉพาะเจาะจงนี้ เท่าที่มิ้นท์ค้นหาตอนสมัคร Goldsmiths, University of London เป็นแค่หนึ่งในไม่กี่มหาวิทยาลัยในอังกฤษที่เปิดสอนวิชานี้ค่ะ

สำหรับคนที่ไม่คุ้นชื่อ ‘Computational Linguistics’ เรียกว่าเป็นแขนงหนึ่งของสายภาษาศาสตร์ หรือ Linguistics ที่เราจะเจาะลึกไปทางด้านคอมพิวเตอร์ ดูการสร้างโมเดลทางภาษาโดยใช้คอมพิวเตอร์ ดูการทำงานของเอไอหรือปัญญาประดิษฐ์โดยเน้นไปที่คำสั่งทางภาษา แล้วก็สร้างเครื่องมือทางภาษาขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาให้กับเรา องค์กร หรือโลกใบนี้ ซึ่งส่วนใหญ่เพื่อนร่วมห้องของมิ้นท์เป็น International Students ที่มีพื้นเพมาจากสาย Linguistics เป็นส่วนใหญ่ เพราะฉะนั้น สาขานี้เหมาะกับคนที่เรียนสายภาษามา แล้วอยากจับกับเทรนด์เรื่องเอไอ รวมถึงเทคโนโลยีมากขึ้นในโลกยุค Generative AI 6.0

 

เหตุผลที่เลือกมาเรียนสาขา Computational Linguistics

ส่วนตัวมิ้นท์เรียนจบปริญญาตรีมาทางด้านภาษาศาสตร์ และเริ่มเห็นความเป็นไปได้ใหม่ ๆ ว่าจริง ๆ Linguists หรือนักภาษาศาสตร์บ้านเราเป็นอะไรได้หลายอย่างมากนอกจากนักวิชาการ ภาษาศาสตร์สามารถไปจับกับภาคธุรกิจ ไปพัฒนาระบบการศึกษา แถมยังเป็นโอกาสให้ประเทศไทยพัฒนาเครื่องมือใหม่ ๆ ทางภาษาได้อีกมากมายเลยค่ะ จะลองสร้าง ChatGPT เวอร์ชันไทยก็ยังได้

 

เหตุผลที่เลือกเรียนที่ Goldsmiths, University of London

Goldsmiths, University of London เป็นมหาวิทยาลัยแห่งความคิดสร้างสรรค์ค่ะ มีชื่อเสียงมาจากการพัฒนาศิลปะโดยใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ ทำให้มิ้นท์รู้สึกว่าการมาเรียนภาษาศาสตร์คอมพิวเตอร์ที่นี่ไม่ได้เป๊ะแค่เรื่องทฤษฎี แต่เราจะได้วิธีคิดนอกกรอบและสร้างสรรค์เครื่องมือของเราให้แตกต่างจากคนอื่นด้วย แถมอาจารย์แต่ละคนก็มีผลงานด้านการวิจัยเจ๋ง ๆ เพียบ

ที่สำคัญ มิ้นท์ชอบบรรยากาศความชิลของที่นี่ เป็นการเรียนควบคู่กิจกรรมที่ไม่กดดันให้เราต้องเป็นซูเปอร์เด็กเนิร์ดจนเกินไป แถมยังมี Student Support ดีมาก มีหน่วยสนับสนุนและอำนวยความสะดวกให้นักศึกษาทั้งการเรียน การเงิน สุขภาพจิต และฝึกฝนทักษะที่จำเป็นต่อการทำงาน

Goldsmiths, University of London

 

ระบบการเรียนที่ Goldsmiths, University of London

การเรียนปริญญาโทสาขา Computational Linguistics เป็นหลักสูตร 1 ปีเต็ม แบ่งออกเป็น 3 เทอม คือ Term 1 Autumn เริ่มเรียนช่วงเดือนกันยายน – ธันวาคม Term 2 Spring เริ่มเรียนช่วงประมาณเดือนมกราคม – มีนาคม และ Term 3 Summer ประมาณเดือนพฤษภาคม – กันยายนปีถัดไป

วิชาทั้งหมดที่ต้องเรียน

เทอม 1:

  • Core Issues in English Language & Linguistics
  • Analysing Discourse & Identity in Spoken Interaction
  • Data Programming
  • Corpus Linguistics

เทอม 2:

  • Machine Learning
  • Natural Language Processing (NLP)
  • Electives 2 วิชา ซึ่งมิ้นท์เลือกเรียน Big Data Analysis และ The User Experience of Artificial Intelligence

เทอม 3:

  • Final Project

เทอมแรกจะเป็นวิชาบังคับทั้งหมด 4 วิชา (ซึ่งปรับจากปีก่อน และนักเรียนช่วยกันเสนอแนะได้นะคะว่าอยากเรียนอะไรเพิ่มเติม อาจารย์ที่นี่รับฟังและเปิดรับความคิดเห็นของผู้เรียนมาก ๆ) วิชาหลัก ๆ จะเป็นวิชาทางภาษาศาสตร์ก่อน และมีการเขียนโปรแกรมขั้นพื้นฐานเข้ามา เทอมที่สองจะเป็นวิชา Machine Learning รวมถึง NLP (Natural language processing) และเน้นไปทางการเขียนโปรแกรมที่เจาะลึกเกี่ยวกับด้านภาษามากขึ้น ส่วนเทอมสุดท้ายเราจะต้องทำ Final Project ออกมา โดยเลือกได้ว่าจะทำแบบ Academic Project ทำเปเปอร์หรือเครื่องมือทางวิชาการ หรือทำ Field Project ไปช่วยบริษัทต่าง ๆ ที่อังกฤษแก้ปัญหาบางอย่างก็ได้เช่นกัน

 

รีวิววิชาต่าง ๆ ในคอร์ส

วิชา Core Issues in English Language & Linguistics คืออะไร?

วิชานี้เหมือนเป็นการทบทวนหลักการทางภาษาศาสตร์ทั้งหมดสำหรับคนที่เรียนจบสายภาษาศาสตร์มา แต่สำหรับคนที่จบสายอื่น ๆ ก็เหมือนได้มาเริ่มต้นใหม่แบบกระชับด้วยกัน เริ่มตั้งแต่ Phonetics and Phonology ดูว่าคนเราออกเสียงอย่างไร Morphology การสร้างคำ Semantics and Pragmatics ความหมายของคำในบริบทต่าง ๆ Syntax ไวยากรณ์ของภาษา ไปจนถึง Discourse หรือการตีความประโยคโดยใช้บริบททางเพศ สังคม และอื่น ๆ มาประกอบ อาจารย์ที่สอนน่ารักมาก เขาจะค่อย ๆ อธิบายแล้วก็ชวนคุยตลอดคาบค่ะ เพราะฉะนั้น การอ่านมาก่อนเริ่มเรียนจะดีที่สุด เพราะทำให้เรามีอะไรไว้คุยกับเพื่อน ๆ หรืออย่างมิ้นท์ ถ้าคิดไม่ออกจริง ๆ ก็จะเอาภาษาไทยไปเปรียบเทียบเอาค่ะว่าในภาษาบ้านเราก็มีแบบนี้นะ ไม่มีแบบนี้นะ พอได้แลกเปลี่ยนกับเพื่อน ๆ ที่รู้หลาย ๆ ภาษาก็สนุกดีค่ะ

 

รีวิววิชา Data Programming

วิชานี้จะสอนพื้นฐานการเขียนโค้ดโดยใช้ Python แม้ว่ามิ้นท์จะเรียนแบบงู ๆ ปลา ๆ มาบ้าง แต่วิชานี้ช่วยปูพื้นฐานได้อีกเยอะเลย เพราะว่ายากเอาเรื่องสำหรับคนที่ไม่เคยใช้งานมาก่อน ส่วนงานที่ส่งจะแบ่งออกเป็น Project Proposal 30 เปอร์เซ็นต์ และ Project ที่เราเขียนโค้ดรันเองให้ใช้งานได้จริง ๆ อีก 70 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งมิ้นท์เลือกทำหัวข้อ Sentimental Analysis on Text Classification ซึ่งต้องใช้ Machine Learning มาต่อยอด อาจารย์ก็คอยช่วยแนะนำค่ะว่าต้องทำอย่างไรบ้าง

 

รีวิววิชา NLP ภาษาธรรมชาติคืออะไร

อีกวิชาที่รู้สึกว่าสนุกมากคือ Natural Processing Language (NLP) อาจารย์จะชอบมีเกมมาให้เล่นตลอด นี่คือวิชาที่สอนให้เรารู้ว่าจะทำอย่างไรให้คอมพิวเตอร์เข้าใจคำสั่งที่เป็นภาษามนุษย์ของเรา ซึ่ง NLP เป็นสับเซตของเอไออีกทีหนึ่ง ถ้าให้อธิบายการใช้งานแบบเข้าใจง่าย ๆ เลย ยกตัวอย่างเช่น เราสั่งให้อเล็กซ่าเปิดเพลงที่ชอบให้แล้ว Smart Home ตัวนี้เข้าใจจนเปิดเพลย์ลิสต์โปรดที่เราตั้งไว้ได้อย่างถูกต้อง วิธีการเริ่มแรกก็ต้องให้ NLP เป็นสื่อกลาง เปลี่ยนคำสั่งคนเป็นตัวเลขฐาน 2 ที่เครื่องจะเข้าใจ บวกกับ Machine Learning เทรนด์จนเครื่องเก่งกาจ แล้วตอบรับกลับมาเป็นภาษาที่มนุษย์เข้าใจ ดังนั้น นอกจากคาบเลกเชอร์แล้ว เรายังได้เขียนโค้ดสนุก ๆ ในคาบแล็บด้วย ส่วน Mini Project อาจารย์ก็ให้เลือกว่าเราจะทำ Chatbot ทำ Text Summarization หรือทำ Bias Detection Tool ขึ้นมา บอกเลยว่าสนุก! (ยิ้ม)

 

ต้องเรียนวิชา Machine Learning ต้องเก่งคอมพิวเตอร์หรือเปล่า?

ต้องบอกว่าไม่จำเป็นเพราะว่าเราเองก็ไม่ได้เก่งคอมพิวเตอร์ เพียงแค่ต้องเข้าใจว่าเราจะทำอะไรแล้วควรใช้ Machine Learning แบบไหน (อันนี้อาจารย์บอก) วิชานี้เราได้เรียนรวมกับนักศึกษาปริญญาตรี และปริญญาโทภาค Data Science แต่สิ่งที่จะนำไปปรับใช้เป็นโมเดลทางภาษา อาจารย์ก็แนะนำว่ามี 2 ทาง คือ Conventional Machine Learning ใช้สำหรับ Classification หรือทำ Sentiment Analysis ส่วนอีกทางคือ Deep Learning เทรนด์ให้โมเดลทางภาษา (LLMs) ฉลาดพอที่เราจะเจนข้อมูลหรือคำตอบออกมาได้ รู้สึกว่าวิชานี้ก้าวกระโดดสุด ๆ ต้องเขียนโค้ดจริงจัง ส่วนท้ายเทอมก็ส่งโปรเจกต์ 2 ชิ้นเช่นเดิม

 

การบ้านและวิธีการส่งงาน

ข้อดีคือ  ไม่มีสอบ! มีเช็ก Attendance ด้วยนะ แต่ว่าไม่ได้คิดเป็นคะแนน ส่วนใหญ่จะเก็บจากโปรเจกต์ท้ายเทอมทีเดียวมากกว่า เหมือนเรียนทั้งหมดแล้ว เราสนใจเรื่องไหนก็หยิบเอาไปทำ หรือต้องระดมความรู้ที่เรียนมาทั้งเทอมเอามาใส่ในงาน ซึ่งทุกวิชาจะชอบให้คิดเรื่องที่เราสนใจตั้งแต่คาบแรกเลยค่ะ มิ้นท์แนะนำว่าคิดตั้งแต่เนิ่น ๆ จะดี เราจะได้มีเวลาทำ เพราะระยะเวลากระชั้นพอสมควรกับการเรียนปริญญาโทใน 1 ปี ส่วนการส่งงานก็จะเป็นการส่งผ่านโปรแกรมของทางมหาวิทยาลัยค่ะ มาลุ้นทีเดียวตอนท้ายเทอมว่าผลจะเป็นอย่างไร (ขอให้ผ่าน ๆ สาธุ)

 

บรรยากาศการเรียนในห้อง

ไม่รู้ว่าเป็นโชคดีหรือโชคร้าย แต่สำหรับมิ้นท์ถือว่าเป็นความท้าทายและโอกาสค่ะที่ในห้องเรียนไม่มีคนไทยเลย และเต็มไปด้วยเพื่อนต่างชาติที่มาจากคนละที่ ทั้งอเมริกา อังกฤษ อินเดีย และอิหร่าน ทำให้เราได้ใช้ภาษาอังกฤษแบบเต็มที่ ส่วนที่มหาวิทยาลัยเอง มิ้นท์ก็เจอคนไทยน้อยมาก ถ้าอยากพาตัวเองหลุดจากคอมฟอร์ทโซนคนไทยในต่างแดน มิ้นท์ว่าการเลือกเรียนที่ Goldsmiths, University of London เป็นประสบการณ์ที่ดีเลย

วิชาที่มิ้นท์เรียนส่วนใหญ่มีทั้งเลกเชอร์ แล็บ หรือบางทีก็เป็นสัมมนาค่ะ ดังนั้น ทุกวิชาจะเน้นให้เราคิดและชอบให้ตอบ ไม่มีถูกผิด ตอบไปก่อนพร้อมเหตุผล ซึ่งมิ้นท์คิดว่าเป็นวัฒนธรรมของตะวันตกนะที่จะชอบเชียร์ให้เด็กนักเรียนกล้าพูด กล้าถาม เพราะฉะนั้น เด็กไทยที่ขี้อายโปรดเตรียมตัว มาแรก ๆ มิ้นท์ก็เขิน ๆ ไม่กล้าพูดค่ะ แต่พอเห็นเพื่อนทุกคนตอบแล้วมันก็มีแรง แบบเอาหน่อย เราก็ทำได้แหละ ยกมือเลยอย่าไปกลัว มิ้นท์เชื่อว่าทุกคนเก่งอยู่แล้วค่ะ อวดชาวโลกไปเลยว่าคนไทยทำได้!

 

โอกาสเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ

อยากบอกว่า Student Support ที่ Goldsmiths, University of London ดีมาก ๆ มีกิจกรรมให้นักศึกษาทุกภาคชั้น บางครั้งก็จะมีกิจกรรมเฉพาะภาค Computing ได้เข้าร่วมตลอดทุกเดือน มิ้นท์ขอยกตัวอย่างกิจกรรมที่มิ้นท์เข้าร่วมมานะคะ

อย่างงานแรก เราเข้าร่วมโปรแกรม Gold Award หรือเป็นโปรแกรมของ Career Service ที่จะช่วยเสริมทักษะนักเรียนก่อนออกไปใช้ชีวิตในโลกทำงานจริง มีทั้งกิจกรรมเขียน CV อย่างไรให้โดนใจ HR หรือที่เราชอบที่สุดคือ Networking Skill สอนให้เราฝึกการหาคอนแทคกับผู้บริหารหรือองค์กรเวลาไปพบปะตามโอกาสต่าง ๆ เขาเปิดคลาสจริงจังสอนว่าเราจะทำ Elevator Pitch อย่างไร ซึ่งเราคิดว่าเหมาะกับอินโทรเวิร์ตแบบเราสุด ๆ เพราะไม่รู้จะเริ่มต้นเข้าหาคนอย่างไร ให้ได้คอนแทคหรือได้งาน

ทักษะนี้ทำให้เรากล้าไปงาน Women on Silicon Roundabout 2024 จัดขึ้นที่ ExCel ซึ่งทางมหาวิทยาลัยให้นักศึกษาลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วมงานได้ฟรี เป็นงานรวมเทคเจ๋ง ๆ ขององค์กรต่าง ๆ ที่เปิดโอกาสให้กับผู้หญิงในวงการเทคโนโลยีโดยเฉพาะ เรามีโอกาสได้คุยกับสาว ๆ วิศวกรคอมพิวเตอร์จาก Trainline ได้นั่งฟังสัมมนา AI Transformation ในองค์กร รวมถึงได้โอกาสคุยเพื่อต่อยอดการทำโปรเจกต์และอาชีพกับ Ministry of Justice ซึ่งเราสนุกมาก ได้ความรู้และรู้จักคนในวงการอีกเพียบ

 

ชีวิตความเป็นอยู่ในลอนดอน

โชคดีที่มิ้นท์จองหอพักนักศึกษาสำเร็จทำให้อยู่ใกล้มหาวิทยาลัยแค่เดิน 5 นาทีถึง มิ้นท์จองห้องแบบ En Suite มาค่ะ เพราะว่าราคาค่อนข้างโอเคเลย มีห้องน้ำในห้องนอนแชร์กับแฟลตเมทแค่ห้องครัว ซึ่งหอพักของมิ้นท์แบ่งกับเพื่อน ๆ อีก 5 คน ซึ่งมาจากคนละที่เลย ทั้งจีน เกาหลี กาน่า อิหร่าน และอังกฤษ โชคดีที่พวกเราเป็นชาวหญิงล้วนรักสะอาด เลยแบ่งกันทำเวรทำความสะอาดกันค่อนข้างง่าย มีสตาฟฟ์หอพักดูแล 24 ชั่วโมง มีห้องส่วนกลางและเครื่องซักผ้ารวมถึงอบผ้า แถมจะชอบมีน้องแมวของเจ้าของใกล้ ๆ แวะเวียนมาให้หยุมพุงที่หน้าหอพักบ่อย ๆ ด้วย

ที่สำคัญ หอพักและมหาวิทยาลัยยังใกล้สถานีรถไฟและ Overground ที่ชื่อว่า New Cross Gate ด้วยค่ะ (แถวนี้คือ London โซน 2 นะ) เดินทางเข้า Central London แค่ 30 นาทีถ้านั่ง Tube แต่ว่าถ้านั่งรถไฟก็แค่ 5 นาทีเท่านั้น สะดวกมาก ๆ ใครที่ติดชีวิตเมือง ๆ ก็ไม่ต้องห่วง หรือจะสั่งเดลิเวอรี่มากินก็ได้ ไม่ห่างไกลเมืองจนรู้สึกขาดแคลนของกิน ถ้านั่งบัสไป 30 นาทีจะเจอซุปเปอร์มาร์เก็ตคนไทยค่ะ มีขายตั้งแต่กะเพราซองยันปลาร้า ไม่อดอยากแน่นอน แนะนำว่าทำอาหารกินเองจะประหยัดที่สุด เพราะทานนอกบ้านราคาค่อนข้างแรงพอสมควร ถือว่าเป็นการฝึกสกิลทำอาหารไปในตัว

ส่วนถ้าใครชอบออกกำลังกาย อยากเดินเล่น ฝั่งตรงข้ามมหาวิทยาลัยก็มีสวนสาธารณะให้ไปพักผ่อนหย่อนใจได้ หรือว่าจะเข้าไปนอนอาบแดด ปิกนิกที่สนามกลางมหาวิทยาลัยก็ได้เช่นกัน บรรยากาศดีมาก ๆ

 

รีวิวที่เที่ยวที่เคยไปมา

อย่างที่บอกว่าโซนที่เราอยู่นั้นไม่ไกลจากในเมืองและสถานีรถไฟ ดังนั้นเดินทางไปไหนมาไหนสะดวกสบายมาก แลนด์มาร์กสำคัญ ๆ อย่าง London Bridge Tower Bridge และ Borough Market เราก็ไปแวะมา บอกเลยว่าช่วงวันหยุดคนเยอะมาก

และทุกคนต้องไปถ่ายกับเจ้าสะพานนี้ ถ้าอย่างไปย่านคนเก๋ เราอยากแนะนำ Notting Hill เลย ไม่ไกล นั่ง Tube แปบเดียวก็ถึง ย่านนี้เป็นที่รู้จักจากภาพยนตร์ในตำนาน Notting Hill ที่แสดงนำโดย Hugh Grant และ Julia Roberts ถ่ายรูปกับประตูสีฟ้า ทำคอนเทนท์ “I’m just a girl, standing in front of a boy, asking him to love her.” ลงติ๊กต่อก แล้วก็อย่าลืมซื้อถุงผ้ากลับบ้านด้วย

อย่างช่วงคริสต์มาส เราก็ไปกิน ช้อปปิ้ง และดู Project Mapping บนตึกที่ Battersea Power ด้วย ซึ่งใกล้ ๆ จะเป็น Battersea Park สวนขนาดยักษ์ริมน้ำให้เดินกินลมชมวิว ส่วนเราเดินเติมน้องหมาของคนอื่น

นอกจากตะลอนเที่ยวในลอนดอนแล้ว ถ้านั่งรถไฟจากสถานี St. Pancras Railway Station ออกไปนอกเมืองอย่าง Canterbury ด้วย เป็นเมืองที่ลงไปทางใต้ ใช้เวลาประมาณชั่วโมงนิด ๆ ก็ถึง จะบอกว่าสวยงามมาก มีธรรมชาติให้เสพแบบเต็มปอด แถมผู้คนก็น่ารัก เป็นเมืองเล็ก ๆ ที่เงียบสงบ

 

การเตรียมตัวเรียนต่อกับ Hands On

สำหรับคนที่อ่านแล้วเริ่มรู้สึกว่าอยากออกจากคอมฟอร์ตโซนเพื่อหาประสบการณ์เรียนรู้ใหม่ ๆ แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไรดี ลองติดต่อสอบถามพี่ ๆ Hands On ได้เลย เพราะเราเองก็เริ่มต้นจากคนที่ไม่รู้อะไรเลยเช่นกัน แต่พอสอบถาม แลกเปลี่ยนกับพี่ ๆ ตอนนั้นพี่ส้มเช้งเป็นผู้ดูแลให้ พี่เขาเริ่มแนะนำตั้งแต่วิธีการเตรียมตัว ขั้นตอนการสมัคร แถมยังช่วยตรวจ Statement of Purpose (SOP) เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้เราด้วย รวมถึงติดต่อกับมหาวิทยาลัยที่อังกฤษอย่างรวดเร็ว จำได้ว่าได้การตอบรับจากมหาวิทยาลัยเร็วมาก ๆ แถมยังช่วยอำนวยความสะดวกเรื่องการทำวีซ่าและหอพักอีกด้วย

นอกจากนี้ Hands On ยังมีกิจกรรมเตรียมความพร้อมก่อนบินจริง งาน Pre-departure Briefings อธิบายแต่ละขั้นตอนอย่างละเอียด รวมทั้งพบปะกับเพื่อน ๆ ที่กำลังจะออกเดินทางไปพร้อมกับเรา มิ้นท์รู้สึกว่าแม้เราจะเดินทางไปเรียนคนเดียว ก็ไม่โดดเดี่ยวและมีคนคอยซัพพอร์ตอยู่ตลอด จนบินมาใช้ชีวิตที่อังกฤษ

 

สิ่งที่อยากฝากถึงน้อง ๆ ที่อยากเรียนต่อสาขานี้ และน้อง ๆ ที่อยากมาเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษ

สำหรับเพื่อน ๆ พี่ ๆ หรือน้อง ๆ ที่สนใจอยากมาเรียนสาขา Computational Linguistics มิ้นท์อยากแนะนำว่าควรทำความเข้าใจพื้นฐานเรื่องภาษาศาสตร์ Python Coding พื้นฐาน หรืออย่างน้อย ๆ สนใจเรื่องเอไอหรือเทคโนโลยีทางภาษา เพราะว่านี่เป็นโปรแกรมการเรียนที่ค่อนข้างกระชับ อาจารย์จะไม่ได้สอนเราอย่างละเอียดทั้งหมด เราต้องศึกษาด้วยตัวเองค่อนข้างเยอะเลยค่ะ ถ้าเกิดว่ามีความสนใจและมีความเข้าใจ จะทำให้ต่อยอดการเรียนได้สนุกมากขึ้น อย่างมิ้นท์เองก็ไปเข้า Data Science Bootcamp มาก่อนเพื่อตอบตัวเองว่าเราชอบทางนี้จริง ๆ ไหม เพราะขาข้างหนึ่งของ Computational Linguistics ต้องใช้เครื่องมือและความรู้จากศาสตร์ Data Science อยู่ค่ะ แล้วก็อาจารย์จะให้เราคิดโปรเจกต์จบที่อยากทำตั้งแต่วันแรก ๆ เลย เพราะฉะนั้นนอกจากชอบและอยากเรียนแล้ว มิ้นท์ว่าการตั้งเป้าหมายว่าเราอยากเรียนสาขานี้ไปทำไมก็สำคัญ แน่นอนว่านี่คือยุคของเทคโลยี เอไอ และ Deep Learning แต่ว่าเราจะปรับใช้เทคล้ำ ๆ แบบนี้กับภาษาแล้วอยากพัฒนาผลผลิตแบบไหนออกมา เพราะสาขาที่เกี่ยวข้องมีเยอะมาก ส่วนสาขานี้ค่อนข้างเฉพาะเจาะจงไปที่การพัฒนาเครื่องทางภาษาโดยตรง อาจจะต้องเริ่มจากการตั้งคำถามตัวเองถึงข้อดีข้อเสีย หรือลองค้นหาข้อมูลจากเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยก่อนได้นะคะ ว่านี่คือคนที่ใช่ที่เราตามหาอยู่หรือเปล่า ไม่อย่างนั้น 1 ปีที่เรียนอาจทรมานไม่น้อย

ส่วนสำหรับคนที่อยากมาเรียนที่อังกฤษ ไม่ว่าจะเป็นสาขาวิชานี้หรือสาขาวิชาอื่น ๆ ก็สามารถติดต่อพี่ ๆ จาก Hands On ได้เลย เพราะว่าพี่ ๆ ทุกคนที่ให้คำปรึกษาจบจากมหาวิทยาลัยในประเทศอังกฤษมาทั้งนั้นเลยค่ะ ดังนั้น พี่ ๆ ให้คำแนะนำได้ตั้งแต่การเรียนจนถึงการใช้ชีวิตแบบรู้ลึก รู้จริงแน่นอน และถึงแม้จะยังคิดไม่ออกว่าอยากเรียนอะไรดี Hands On ก็มีกิจกรรม Open House พามหาวิทยาลัยจากอังกฤษไปเปิดบูธให้คำปรึกษา อาจลองพาตัวเองไปลองพูดคุยเพื่อหาไอเดียดูก็น่าสนใจนะคะ เผื่อกลับบ้านมาอาจค้นพบประตูบานใหม่ที่พาเราไปเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ในชีวิตก็ได้นะ ขอให้ทุกคนค้นพบทางที่ใช่ของตัวเองนะคะ : )

 

สนใจเรียนต่อ Goldsmiths, University of London หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ปรึกษาพี่ ๆ Hands On ตัวแทนมหาวิทยาลัยอย่างเป็นทางการประจำประเทศไทย ฟรี เพียงกรอกแบบฟอร์มด้านล่าง

Enquiry Form

Please provide the following information and we will aim to respond within 48 hours:

Your details
Please enter your first name.
Please enter your last name.
Please enter a valid email address.
Please enter your phone number.
Please select a country you want to study.
Please select a year you want to study.
Please select your preferred branch.

* All fields required (in English)

  • Share this: