ระบบการศึกษาของประเทศจีน
ในประเทศจีน ระบบการศึกษาได้ถูกแบ่งออกเป็น 3 แบบ คือ การศึกษาขั้นพื้นฐาน การศึกษาขั้นอุดมศึกษา และ การศึกษาผู้ใหญ่ โดยการศึกษาภาคบังคับตามกฎหมายของประเทศจีน กำหนดให้เด็กทุกคนต้องได้รับการศึกษาในระบบโรงเรียนอย่างน้อย 9 ปี ซึ่งรวมการศึกษาระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาตอนต้น
การศึกษาขั้นพื้นฐาน
การศึกษาขั้นพื้นฐานในประเทศจีน ประกอบด้วย
- ระดับอนุบาล (ก่อนวัยเรียน) เด็กจะเริ่มเรียนตั้งแต่อายุประมาณ 3 ปีจนถึง 6 ปี โดยใช้เวลาประมาณ 3 ปี ซึ่งไม่ใช่การศึกษาภาคบังคับและมีทั้งโรงเรียนของรัฐและเอกชน
- ระดับประถมศึกษา เริ่มตั้งแต่อายุ 6 ปี เรียนเป็นเวลา 6 ปี เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาภาคบังคับ
- ระดับมัธยมศึกษา ตอนต้น (Junior Secondary) ใช้เวลาเรียน 3 ปี (อายุประมาณ 12-15 ปี) และเป็นส่วนที่ทำให้ครบ 9 ปีของการศึกษาภาคบังคับ
- มัธยมศึกษาตอนปลาย (Senior Secondary) ใช้เวลาเรียน 3 ปี (อายุประมาณ 15-18 ปี) โดยไม่บังคับ นักเรียนสามารถเลือกศึกษาต่อในสายสามัญ หรือสายอาชีวศึกษาได้
การศึกษาสายอาชีวศึกษา
ใช้เวลาประมาณ 2-4 ปี เน้นให้ความรู้และทักษะทางเทคนิค การผลิต และการดำเนินงาน เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการทำงาน โดยในแต่ละปีการศึกษาจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ภาคการศึกษา
การศึกษาขั้นอุดมศึกษา
การศึกษาขั้นอุดมศึกษาในจีนมีหลายระดับและระยะเวลาแตกต่างกัน ดังนี้
- อนุปริญญา ใช้เวลาศึกษา 2-3 ปี
- ปริญญาตรี ใช้เวลาปกติ 4-5 ปี แต่บางสาขา เช่น แพทยศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ อาจใช้เวลาถึง 6 ปี
- ปริญญาโท ใช้เวลาเรียนประมาณ 2-3 ปี
- ปริญญาเอก ใช้เวลาเรียนประมาณ 3-4 ปี
การศึกษาขั้นอุดมศึกษามีความหลากหลายทั้งในเรื่องสาขาวิชาและรูปแบบการเรียน เช่น การเรียนที่มีวุฒิบัตรหรือไม่มีวุฒิบัตร และยังมีรูปแบบที่ผสมผสานกันระหว่างระดับอนุปริญญา ปริญญาตรี และปริญญาโท
การศึกษาผู้ใหญ่
การศึกษาผู้ใหญ่ในจีนเป็นการศึกษานอกระบบโรงเรียน ที่เพิ่มเติมจากการศึกษาขั้นพื้นฐานและขั้นอุดมศึกษา โดยแบ่งเป็น
- การศึกษาผู้ใหญ่ขั้นต้น เน้นการให้ความรู้เบื้องต้นแก่ผู้ใช้แรงงานในชนบทหรือพื้นที่ห่างไกล
- การศึกษาผู้ใหญ่ขั้นกลาง เน้นด้านวิชาชีพ เช่น การฝึกอบรมด้านทีวี วิทยุ หรืออาชีพเสมียน
- การศึกษาผู้ใหญ่ขั้นสูง เป็นการศึกษาวิชาชีพที่สูงขึ้น ผ่านวิทยาลัยหรือมหาวิทยาลัย เพื่อเพิ่มพูนความรู้และทักษะเฉพาะทาง

