บทความนี้พี่ Hands On ได้ลิสต์คำถามที่น่าสนใจจากงานสัมมนา “รุ่นพี่ป.โทจากอังกฤษแจกทริค: เตรียมตัวยังไงให้ได้ทุนเต็มจำนวน” เจาะลึกทุกประเด็นการเขียน Essay เพื่อสมัคร Chevening Scholarship หรือทุนเรียนต่อเต็มจำนวนจากรัฐบาลอังกฤษ 🇬🇧 น้อง ๆ คนไหนที่กำลังเริ่มดราฟท์ Essay แต่ยังจับต้นชนปลายไม่ถูก ว่าต้องเขียนอย่างไรให้โดนใจกรรมการ 🔎 ลองอ่านบทความนี้เพื่อเป็นไกด์ไลน์ในการเขียนได้เลย
ถ้าน้อง ๆ ไม่อยากพลาดสัมมนาดี ๆ แบบนี้ ติดตามโซเชียลมีเดียของพี่ Hands On เพื่อไม่ให้พลาดทุกข่าวสารและกิจกรรมการเรียนต่อต่างประเทศ เข้าร่วมฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายทุกกิจกรรม
สนใจเรียนต่อสหราชอาณาจักร ปรึกษาพี่ Hands On วางแผนเรียนต่อฟรีทุกขั้นตอน!
แนะนำ 2 รุ่นพี่ที่ได้รับ Chevening Scholarship 🎓
รวมเทคนิคการเขียน Essay เพื่อสมัคร Chevening Scholarship 🇬🇧
🔸 พี่พิม: ในส่วนของ Essay หลัก ๆ จะเป็น 4 คำถามแพทเทิร์นมันจะคล้าย ๆ กันทุกปีค่ะ อย่างตัวอย่างในปีของพิมจะแบ่งออกเป็น
- เกี่ยวกับ Leadership ว่าเรามีและใช้มันอย่างไร
- เกี่ยวกับ Networking
- เกี่ยวกับมหาวิทยาลัยและคอร์สที่เราสนใจ 3 ที่
- Short-Term Goal กับ Long-Term Goal ของเรา
แต่อย่างปีที่พิมสมัครได้เกี่ยวกับ Networking ในปีก่อน ๆ เขาจะใช้คำว่า Connection ค่ะ จะเป็นแพทเทิร์นประมาณนี้ทุกปี
🔹 พี่ต้น: ต้นคิดเสมอเลยว่า Essay นี่แหละคือตัววัดว่าคุณจะผ่านไปสัมภาษณ์ได้หรือเปล่า ซึ่งต้นมองว่าแม้คำถาม Essay มันจะเปลี่ยนไปมากหรือน้อย แต่สาระสำคัญมันยังมีอยู่
ต้นเคยอ่านของรุ่นพี่เราเหมือนกันที่แกเคยเขียนอธิบายเรื่อง Essay เขาให้เราย้อนอดีตว่าเราทำอะไร แสดงความมีภาวะผู้นำอย่างไร กับเรามีเครือข่ายที่สร้างในระหว่างการทำงานของเราอย่างไรซึ่งมันคือ ‘อดีต’ ของเรา แต่ว่ามันจะเชื่อมไปสู่ ‘อนาคต’ ที่เราวาง Career Path ในอนาคตระยะกลาง-ระยะยาว คุณอยากเป็นอะไร คุณอยากทำอะไรเพื่อสังคม แล้วการไปเรียนด้วยทุน Chevening มันจะเป็นสะพานเชื่อมไปสู่อนาคตนั้นอย่างไรครับ
ซึ่งต้นมองว่าแม้ว่าคำถามมันจะเปลี่ยนรายละเอียดไปยังไงก็ตาม แต่ Concept มันยังมีอยู่ เพราะฉะนั้นเราจะต้องขุดสิ่งเหล่านี้มานำเสนอให้โดดเด่นและแตกต่างให้ได้ ต้องตีความมันให้ดีและทำให้มันแตกต่าง จุดขายของเรามันต้องไม่เหมือนคนอื่นครับ
📝 การสร้างจุดเด่นใน Essay ของเรา
🔸 พี่พิม: อย่างหนึ่งคือ เราต้องคิดว่าถึงแม้คำถามจะง่าย แต่อีก 1,000 คนเขาก็ได้คำถามเดียวกับเรา เราจะทำยังไงให้ต่างจากคนอื่น?
🔹 พี่ต้น: เห็นด้วยมาก ๆ เลย ซึ่งคิดว่าในขั้นการเตรียมตัวตรงนี้ยังไม่ต้องไปโฟกัสอะไรมาก ให้โฟกัสแค่ Essay กี่ร้อยกี่พันคำของคุณตรงนี้ เอาให้เต็มที่และให้มันโดดเด่นกว่าคนอื่น พยายามคิดว่าสิ่งที่เราทำแล้วไม่เหมือนชาวบ้าน หยุดคิดไปเลยอะไรที่มันเป็นแนว ๆ เราเคยเป็นหัวหน้าชมรมอะไรอย่างนี้ ต้นว่าอันนี้มันธรรมดา ใคร ๆ ก็เขียนได้ แต่ว่าให้เอาสิ่งที่แม้ว่ามันจะเป็นการกระทำเล็ก ๆ ของเรา แต่มันสามารถสร้าง Impact ได้ในแบบที่คนอื่นทำไม่ได้ แล้วมันสามารถเชื่อมไปกับอนาคตที่เราอยากจะเป็นได้ ต้นว่าสิ่งนี้คือสิ่งที่คนผ่านสัมภาษณ์จะต้องเขียนในลักษณะนี้ได้
เพราะฉะนั้นอะไรที่มันเตรียมตัวได้ ณ นาทีนี้ เช่น ภาษาอังกฤษ, Essay อะไรพวกนี้ ทำไปเลยให้เต็มที่ ต้นคิดว่านี่แหละคือสิ่งสำคัญในการตัดสินว่าคุณจะได้ทุนหรือไม่ได้ทุนครับ
📝 ไม่ควรใช้ AI ในการเขียน Essay
🔸 พี่พิม: เคยได้ไป Session ที่เป็น Networking กับทางสถานทูต ก็มีเจ้าหน้าที่บอกว่าเขารู้ว่าใช้ ChatGPT เพราะว่าลักษณะการเขียนที่อาจจะไม่ใช่สไตล์ของคนไทยหรือว่าดูเป็นบอทมาก ๆ ส่วนใหญ่เขาบอกว่าเขาจับได้ ฝรั่งเขามีเซนส์เพราะมันเป็นภาษา Native ของเขา
และถ้าเกิดเราใช้ ChatGPT หรือ AI แล้วเราได้ไปสัมภาษณ์ขึ้นมา และสมมติว่า story มันไม่ใช่ของเรา พอเราไปสัมภาษณ์ ภาษาที่เราเขียนกับภาษาที่เราพูดมันต่างกันมากอย่างนี้ มันก็จับได้อยู่ดีค่ะ
🔹 พี่ต้น: ตอนเราทำวิจัยกัน มันมีจับได้หมดเลยนะว่า Generate จาก AI กี่เปอร์เซ็นต์ เพราะฉะนั้นอะไรที่มันเป็นพื้นฐานแบบนี้คิดว่าเขาต้องจับได้อยู่แล้ว เอาจริง ๆ 300 คำ ต้นว่าลองเขียนด้วยตัวเองก่อน แล้วก็ทบทวนกับคนใกล้ตัวที่รู้จักเราดี ที่หวังดีกับเรา ต้นว่าน่าจะเวิร์คกว่าการใช้ AI ที่รู้จักเราผ่านการแชทไปแชทมานะครับ
🍊 พี่ Hands On: ปีนี้ Chevening ออกกฎชัดเจนเลย ถ้าน้อง ๆ เข้าไปอ่านในหน้าเว็บไซต์มันจะมีบอกเลย คือไม่ให้ใช้ AI เด็ดขาด พยายามเขียนเองดีกว่านะคะ
สนใจเรียนต่อสหราชอาณาจักร ปรึกษาพี่ Hands On วางแผนเรียนต่อฟรีทุกขั้นตอน!
📝 ระดับภาษาในการเขียน Essay
🔹 พี่ต้น: การเขียนต้อง Formal นะ เพราะว่ามันเป็นการเขียนให้กับคนที่ไม่รู้จัก บริบทมันคือการขอทุนรัฐบาลต่างประเทศ เพราะฉะนั้นมันก็ต้องเป็นภาษาในระดับทางการนิดนึง อันนี้ในมุมต้นนะ ไม่รู้พิมเห็นด้วยหรือเปล่า?
🔸 พี่พิม: เห็นด้วยค่ะ ต้องคิดอย่างหนึ่งว่ามันเป็นทุนรัฐบาลอังกฤษ มันไม่ใช่เรื่องที่เราจะมาเล่น ๆ หมายถึงว่า เขามีความคาดหวังต่อ Application ที่เขาจะอ่าน เพราะฉะนั้นเราก็ควรจะทำให้ดีที่สุด แล้วก็แสดงตัวตนของเราให้เขารู้ แต่ไม่ใช่ด้วยภาษาพูดหรือภาษาที่ง่ายเกินไปค่ะ คือเราสามารถทำได้ แต่เขาก็จะไม่เห็นความ Professional ของเรา มันจะลดความน่าเชื่อถือลงไป
📝 เทคนิคการเขียน Essay แบบฉบับพี่ ๆ
🔸 พี่พิม: คือเรามีกรอบว่าเราจะใช้หลัก ‘STAR’ (Situation, Task, Action, Result) แต่ว่าเรา Add-On เพิ่มเองคือ Learning อย่างที่ต้นบอกไปในช่วงแรกว่า มันไม่ใช่ว่าเราเป็นใคร ทำอะไรมาอย่างนั้นค่ะ แต่มันคือ Impact ที่เราสร้างขึ้นจากงานของเรา อันนั้นแหละเราเอามาใช้หลัก STAR เพื่อที่จะให้การเล่าเรื่องของเรามันสมูทและกระชับที่สุด เราเลยใช้หลักนี้แล้วเพิ่มหัวข้อการ Learning เข้าไปให้มันดูแปลกจากคนอื่น ๆ มันก็เหมือนเป็นสิ่งที่เราได้เรียนรู้จากงานที่เราทำด้วยค่ะ เราเลยใช้กรอบนี้เป็นหลัก
🔹 พี่ต้น: ถ้าเป็นของต้น ต้นมองว่าเรื่องตัวอย่างสำคัญ เด็กไทยพอพูดคำว่า Essay หรือว่าเรียงความเนี่ยมักจะนึกถึงการเขียนเกริ่น, Body แล้วก็ Conclusion เป็น 3 สเตปอะไรพวกนี้ซึ่งจะทำให้เราเชยอะ เราโตมากับแบบนี้ใช่มั้ย แต่ว่าเราต้องเขียนตัวอย่างที่มันชัดเจน เพราะว่าเขาให้โควตาเราไม่กี่คำเองอะ เพราะฉะนั้นคุณยกตัวเองมาเลย
มันจะมีทั้งหมด 4 Essay ต้นเลยจะใช้เทคนิคเขียนแบบ 3-3-3 เลย ก็คือ 3 ตัวอย่างที่เราทำที่สะท้อนถึง Leadership, สิ่งที่เราทำและสร้าง Impact, 3 เครือข่ายที่เราสร้าง ทั้งเครือข่ายวิชาการ เครือข่ายระดับการเมือง เครือข่ายสื่อมวลชนอะไรแบบนี้ หรือว่า 3 คอร์สที่เราต้องเลือก อันนี้มันบังคับอยู่แล้ว แต่ปีนี้น่าจะเปลี่ยนแล้วมั้ง แล้วก็ 3 เป้าหมายที่เราอยากจะเป็นในอนาคตเมื่อเรียนจบ คือเขียนให้ชัดไปเลยโดยที่ไม่ต้องมีคำฟุ้งเฟ้ออะไรทั้งนั้น
📝 การเขียนให้ชัดเจนต้องเป็นอย่างไร?
🔸 พี่พิม: การเขียน Result หมายถึงเราต้องเขียนถึง Impact ของงานที่เราทำยิ่งชัดที่สุดยิ่งดี เทคนิคการเขียนของเรา ล้อมาจากการสมัครพวก MBA ท็อปยู ด้วยความที่มีประสบการณ์มาก่อน เราก็เลยรู้ว่าเขาต้องการให้มันชัดเจนที่สุดเพื่อที่เขาจะได้เห็นตัวตนของเราด้วย
🔹 พี่ต้น: อันนี้เราเห็นด้วยกับพี่พิมมาก ๆ สมมติถ้าเราจะเขียนว่า วันนี้ฉันแปรงฟัน 2 ครั้งมันก็ Impact ประมาณนึง แต่ถ้าเขียนว่าฟันฉันสะอาดมากจากการแปรง 2 ครั้งของฉัน คือผลที่มันต้องเกิด เราก็เขียนโม้ไปเลย คนไทยจะติดการถ่อมตัวแต่เรามองว่าเราต้องไม่ถ่อมตัว แต่ก็ไม่ใช่การอวดเกินจริง คนอ่านจะมาจากไหนก็ไม่รู้แต่ต้องเห็นตัวตนเราชัดอะ
คุณทำประเด็นอะไร? แล้วมันเกิดการเปลี่ยนแปลงยังไงกับสังคม? เช่น นายกมาฟังแล้วเอาไปสร้างนโยบายนี้จากบทรายงานพิเศษของเราอะไรอย่างนี้ แล้วก็เห็นด้วยกับที่พิมบอกว่าต้องให้คนที่อยู่ใกล้ตัวเราช่วยอ่าน เพราะบางทีเราอาจจะคิดว่างานเราเขียนไว้ดีที่สุดแล้ว แต่มันอาจจะยังไม่สื่อสารที่สุดก็ได้ เราต้องให้คนใกล้ ๆ ตัวช่วยกันดูว่า เช่น ชื่อนี้ไม่ควรมีนะ ตัดออกก็ได้ ใส่คำอื่นดีกว่าอะไรแบบนี้ ต้นว่ามีส่วนช่วยได้เยอะ
สนใจเรียนต่อสหราชอาณาจักร ปรึกษาพี่ Hands On วางแผนเรียนต่อฟรีทุกขั้นตอน!
📝 เคล็ดลับการเขียน Essay ให้ได้คะแนนเพิ่ม
🔸 พี่พิม: ขอแนะนำว่าคนที่จะสมัครทุนควรไปเปิดเว็บไซต์ของ Chevening ดู เพราะเขาอธิบายได้ละเอียดมาก มีตัวอย่างเยอะมาก มันจะมี Area ที่เขาสนใจทุก ๆ ปี เราก็สามารถไปดูได้ว่า Area หรือเทรนด์ที่เขาสนใจในปีนี้มันคืออะไร แล้วเราอาจจะเขียนโยงเรื่องของเราให้มันตอบเทรนด์ของเขา มันก็อาจจะได้คะแนนเพิ่ม
🔹 พี่ต้น: ตอนนั้นตัวเองก็เปิดเหมือนกัน เว็บไซต์กระทรวงต่างประเทศ เว็บไซต์ด้านสิ่งแวดล้อม หรือมหาดไทยก็เปิดของอังกฤษว่าตอนนั้นเขาโฟกัสอะไร ตอนนี้สมมติคุณจะมาขอทุน คุณต้องเขียนเรื่องอะไร? Soft Power มั้ย? อะไรแบบนี้เป็นต้น อันนี้ต้นยกตัวอย่างให้ฟังนะ
📝 เราสามารถเขียน Contribution ใน UK อย่างไรได้บ้าง?
🔹 พี่ต้น: เมื่อกี้พี่พิมบอกแล้วว่ามันพอหาได้อยู่ในนะเว็บไซต์หน่วยงานหรือกระทรวงต่าง ๆ ของอังกฤษ เพราะว่าเว็บไซต์เขาดีมากเลย แล้วเราอ่านข่าวต่างประเทศเราก็พอที่จะรู้ว่าตอนนี้อังกฤษเขาโฟกัสเรื่องอะไรหรือมีประเด็นปัญหายังไง แล้วสิ่งนั้นมันเป็นปัญหาร่วมกับเรายังไง ต้นว่าสิ่งพวกนี้มันเป็นตัวกำหนดสิ่งที่เราอยากจะ Contribute ได้ ถ้าเราเป็นคนที่มี Passion ที่อินกับเรื่องใดเรื่องหนึ่งอยู่แล้วมันจะหาเจอ
นึกถึงเพื่อนคนนึงที่เราเนิร์ดเรื่องรถเมล์มาก พวกขนส่งมวลชนในกรุงเทพฯ เขาก็จะชื่นชอบมากเวลามีข่าวเกี่ยวกับการพัฒนารถเมล์ที่ London, Liverpool ที่อังกฤษต่าง ๆ เหล่านี้ เราได้เป็นตัวอย่างนึงที่เราจะหาจุดเชื่อมโยงของเรากับอังกฤษได้ นี่แหละ Passion ที่คุณมี อะไรอย่างนี้เป็นต้น
🔸 พี่พิม: ทุกคนต้องคิดว่าทำไมเขาถึงจะให้เราไปเรียนอะ นั่นแหละมันทำให้เราจะต้องหาจุดที่เราต้องเชื่อมกับเขา ถ้าหากว่าเราไปเรียนเฉย ๆ ก็ไปทุนตัวเองสิ
🔹 พี่ต้น: ยกตัวอย่างให้เห็นภาพก็ได้ ของต้นเขียนว่า ต้นอยากเห็นประเทศไทยของเรามันเจริญมากกว่าแค่ในกรุงเทพฯ ทรัพยากร คน ย้ายไปทำงานในบ้านเกิดตัวเอง นี่คือความฝันของต้น ทีนี้เวลาเราจะเขียนเชื่อมโยง แม้กระทั่งไปสัมภาษณ์ในห้อง เราก็ต้องรู้อยู่แล้วว่าอังกฤษเป็นต้นแบบในด้านนี้อย่างไรบ้าง เรื่องการปกครองส่วนท้องถิ่น การกระจายอำนาจ การที่เมืองใหญ่และเมืองรองเขาล้วนเจริญทัดเทียมกัน เมื่อกี้เราพูดเรื่องการเดินทางแล้วว่ามันสบาย มันจะมีข้อที่เราสามารถยึดเป็นตัวอย่างได้ ต้นว่าสิ่งนี้เราต้องหาให้เจอ
📝 ถ้าเราไม่เคยสร้าง Impact สามารถเขียนเรื่องอนาคตแทนได้ไหม?
🔸 พี่พิม: ในส่วนของ Essay มันจะต้องพูดอยู่แล้วเพราะว่ามันจะต้องตอบข้อที่ 4 เรื่อง Goal ของเราหรือข้อที่ 3 ว่าเราจะไปเรียนอะไร แต่ว่ายังไงทั้งในข้อ 2 มันจะต้องพูดถึงอดีตกับปัจจุบันของเรา เป็นสิ่งที่เราเคยทำมาอยู่ดี ไม่ว่ามันจะเป็นเรื่องเล็กน้อยขนาดไหนแต่เราต้องพยายามหาคุณค่าในงานที่เราทำ เช่น ข้อ Leadership ถึงแม้เราไม่ได้เป็นผู้นำหรือ Manager เรายังเป็นเด็กที่ยังไม่ได้ถึงขั้น Senior เราก็หาอะไรที่มันโชว์ Leadership ของเราให้เขาเห็นให้ได้ มันไม่ใช่การที่เราจะพูดถึงอนาคตหรือวาดฝันให้เขาค่ะ เพราะเขาอยากจะรู้ว่าเราทำอะไรมาแล้ว impact มันคืออะไร
🔹 พี่ต้น: ต้นมองว่าคนที่แอบสนใจทุน Chevening เอาจริง ๆ ที่ผ่านมาเคยทำอะไรที่มันมี Impact อยู่แล้วแหละ เพียงแต่จะมองเห็นหรือเปล่า ต้นว่าก็ต้องพยายามทบทวนสิ่งที่เราทำเนอะ แล้วต้นก็มองว่าเหมือนที่พิมบอกเมื่อกี้ว่า จริง ๆ คำว่า Leadership ความหมายไม่ใช่แค่การมีหมวกอะไรบางอย่างในทางตำแหน่ง แต่ Leadership มันแปลว่าภาวะผู้นำ คือในสิ่งที่เราทำ คุณเคยสร้างความเปลี่ยนแปลงอะไรด้วยตัวคุณเองหรือเปล่า การที่คุณสามารถนำเพื่อนร่วมงานเพื่อที่จะไปเป้าหมายเดียวกันหรือเปล่า สร้างสรรค์ที่จะแก้ปัญหาอะไรสักอย่าง
ต้นว่าคนที่จะสมัครทุน Chevening มันก็น่าจะเคยทำอะไรแบบนี้มาก่อนด้วย ต้นว่าต้องขุดให้เจอแล้วก็เขียนออกมาให้เห็นภาพ Passion ของเราให้ชัดเจน
สนใจเรียนต่อสหราชอาณาจักร ปรึกษาพี่ Hands On วางแผนเรียนต่อฟรีทุกขั้นตอน!
📝 การเข้าร่วมงานสัมมนาหรือการทำกิจกรรม CSR มีผลสำคัญแค่ไหน?
🔹 พี่ต้น: เอาเป็นว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่มันเป็นประโยชน์ต่อสังคมมันมีคุณค่ามากพอที่จะไปเขียนได้ ชั่งตวงวัดได้เองว่าสิ่งนั้นมันมีประโยชน์พอที่จะไปเขียนหรือเปล่า เช่น ถ้าต้นไปร่วมกิจกรรมปลูกต้นไม้อะไรอย่างนี้ หรือเสวนาที่เราไปร่วม อาจจะร่วมบรรยายหรือร่วมพูดแต่จริง ๆ มันไม่ได้ก่อ Impact อะไรขนาดนั้น เป็นต้นก็อาจจะไม่เขียน แต่ถ้าเสวนานี้มันเกิดจากงานวิจัยที่ต้นทำมาตลอด 3 ปี และมันสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงคนสักกลุ่มนึงได้ อาจพิจารณาไปเขียนได้นะ
🔸 พี่พิม: “มีประโยชน์พอที่จะเขียนหรือเปล่า?” Keyword นี้สำคัญ เพราะว่า Essay มันถูกจำกัดด้วยจำนวนคำไง ทุกคำมันสะท้อนความเป็นตัวตนของเรา สะท้อนให้เขาเห็นว่าเราต้องการอะไร ถ้าเราไปเขียนกิจกรรม CSR ที่ไม่ได้ Impact มากกก็ไม่ต้องเขียนก็ได้ มันเปลืองคำ
📝 สำหรับพี่ต้นที่สมัครทุนเอง เป็นอย่างไรบ้างคะ?
🔹 พี่ต้น: ต้นก็ลุยเองแต่ก็พูดอย่างนั้นได้ไม่เต็มปากนะ เพราะว่าอย่างที่พี่ ๆ Hands On ทราบดีว่ากระบวนการไปสมัครเรียนต่างประเทศเนี่ยมันซับซ้อน หลายขั้นตอน หลายเอกสารมาก ต้นก็อาศัยน้องที่ไปทำงานด้วยกันที่เคยไปเรียนต่างประเทศแล้วก็มีความถนัดในการทำใบสมัครอะไรพวกนี้ ก็คอยช่วยประกอบอยู่ข้าง ๆ เนอะ
เอาจริงการมี Agency มันก็มีข้อดีมากในแง่การลด Process ซึ่งมันช่วยเราได้เยอะเลย เราอาจจะทำแบบผิด ๆ ถูก ๆ และแข่งกับเวลาด้วย ถ้าผิดไปปีนึงก็ต้องมานั่งทำอะไรใหม่ยุ่งยาก มันก็ไม่ดีใช่มั้ย แล้วก็อย่างที่พิมบอกว่าสำหรับต้นเนี่ย การเขียน SoP หรือ Essay พวกนี้เราเขียนเราก็มองว่ามันดี แต่บางทีมันอาจจะยังไม่สื่อสารกับคนอื่นก็ได้ หรือมันอาจจะขาดตกบกพร่องอะไร ดังนั้นการมีคนอยู่ข้าง ๆ ที่คอยอ่าน คอยให้ความเห็นเราอย่างจริงใจ ต้นว่าก็เป็นเรื่องสำคัญ เอาจริงการมี Agency อยู่ข้าง ๆ ต้นว่าดีนะ
📝 พี่ Hands On ช่วยอะไรพี่พิมบ้างคะ สำหรับขั้นตอนสมัครทุน
🔸 พี่พิม: พอดีว่าได้มีโอกาสใช้บริการ Hands On ตอนที่สมัครมหาวิทยาลัยแล้วค่ะ ซึ่งพี่ ๆ Hands On ก็ให้คำแนะนำดีมาก เพราะว่าจะมีพี่ ๆ ที่คอยช่วยตรวจเช็ค Essay ที่เราว่าสำคัญมากที่สุด แล้วเราก็จะได้รับ Feedback กลับมา เพราะตอนเราอ่านคนเดียวมันไม่รู้ว่าคนอื่นคิดอย่างที่เราคิดมั้ย ก็ได้ใช้บริการ Hands On จากตรงนี้ค่ะ
คิดว่าประหยัดเวลาเยอะในเรื่องของขั้นตอนการสมัครค่ะ แต่ว่าไม่ใช่แค่เรื่องของการเขียน Essay เพราะว่าตอนใช้บริการกับ Hands On นี่คือ มีช่วยตรวจ SoP ตอนสมัครเข้ามหาวิทยาลัย ซึ่ง SoP มันคือสิ่งที่เราต้องอยู่กับตัวเอง เราต้องใช้เวลากับตัวเอง เราต้องการอะไรในชีวิตก็ต้องเขียนลงไป แต่สิ่งที่ประหยัดเวลาก็คือขั้นตอนการสมัคร และขั้นตอนการสมัครวีซ่า ที่มีพี่ ๆ Hands On ช่วยดูขั้นตอนแล้วเราก็มาตรวจเช็กอีกครั้ง ก็สบายใจมากค่ะตรงนี้









