น้อง ๆ ที่กำลังวางแผนการเรียนต่อต่างประเทศ มักตั้งคำถามกันว่า “จะไปเรียนต่อที่ประเทศอะไรดี?” ซึ่งคำถามนี้หลาย ๆ คนคงมีวิธีตัดสินใจและชั่งน้ำหนักแตกต่างกันไป ประเทศที่เป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับการไปเรียนต่อมีสามประเทศนั่นก็คือ United Kingdom (UK)
แต่พี่ Hands On อยากจะบอกว่าปัจจัยสำคัญอีกอย่างคือ “เมือง” ที่เราเลือกไปอยู่ระหว่างเรียน อย่าลืมว่าเราไม่ได้ไปท่องเที่ยวในระยะเวลาสั้น ๆ เราต้องไปอยู่กินที่นั่นในฐานะนักเรียนอย่างน้อย 1 ปี เพราะงั้นพี่ ๆ เลยรวมลิสต์รายชื่อเมืองที่น่าไปเรียนต่อ เหมาะสำหรับนักเรียนต่างชาติ พร้อมกับแนะนำมหาวิทยาลัยชั้นนำและสถาบันสอนภาษาในเมืองนั้นด้วย
บทความนี้พี่ ๆ จะมาแนะนำเมืองน่าเรียนต่อจากทั้ง 3 ประเทศยอดฮิต จากการจัดอันดับของ QS World University Ranking
เกณฑ์ที่ QS World University Ranking ใช้ประเมินการจัดอันดับเมืองน่าเรียนต่อ
การจัดอันดับ QS Best Student Cities จะวิเคราะห์ให้เห็นถึงเมืองที่ดีที่สุดสำหรับนักศึกษาต่างชาติ โดยพิจารณาจากปัจจัยทั้งหมด 6 หัวข้อ ได้แก่ 1. อันดับมหาวิทยาลัย (University rankings) จำนวนและลำดับมหาวิทยาลัยในเมืองที่ติดอันดับ QS World University Rankings 2. สัดส่วนนักศึกษา (Student mix) เช่น มีจำนวนนักศึกษาเยอะหรือมีความหลากหลายทางสัญชาติสูง 3. คุณภาพชีวิตที่ตอบโจทย์ (Desirability) เช่น มีความปลอดภัยในเมืองสูง เดินทางสะดวก ไปจนถึง วัดระดับมลพิษ 4. โอกาสในการจ้างงาน (Employer activity) วัดจากอัตราการจ้างงานของเยาวชนในเมืองและคุณภาพนายจ้าง 5. ความคุ้มค่าและราคาที่เอื้อมถึง (Affordability) รวมทุกอย่างไม่ว่าจะเป็น ค่าเทอมและค่าครองชีพต่าง ๆ 6. ความพึงพอใจของนักศึกษา (Student view) วัดจากคะแนนที่นักศึกษาให้โดยรวมและสัดส่วนคนที่อยู่ต่อในเมืองหลังจบการศึกษา โดยแต่ละเมืองจะมีการให้คะแนนทั้งหมด 6 ช่อง ตามที่กล่าวไว้ข้างบน และช่องที่ 7 ช่องสุดท้ายเป็น Overall Score เมืองที่เหมาะไปเรียนต่อที่สุด โดยคะแนนจะให้เป็น 0 ถึง 100 คะแนนเต็ม |
1st London, United Kingdom
เริ่มกันที่เมืองที่น่าไปเรียนต่อที่สุดในโลกปี 2025 อย่างกรุงลอนดอนที่ประเทศอังกฤษ ที่มี Overall Score สูงถึง 100 คะแนนเต็ม พูดได้เต็มปากว่าเป็นเมืองที่เหมาะกับการไปเรียนต่อที่สุดของโลก เหตุผลหลัก ๆ เป็นเพราะ มีคะแนน “ความคิดเห็นนักศึกษา” สูงมาก รวมถึงมีมหาวิทยาลัยคุณภาพระดับโลกอยู่ในเมืองเป็นจำนวนมาก
- King’s College London
- Queen Mary, University of London
- City, University of London (Bayes Business School) เป็นต้น
5th Melbourne, Australia
เมืองขึ้นชื่อของออสเตรเลียอย่างเมลเบิร์นได้คะแนน Overall Score 97.1 เมลเบิร์นได้คะแนน “ความพึงพอใจของนักศึกษา” และ “คุณภาพชีวิตที่ตอบโจทย์” เยอะกว่าอันดับ 1 อย่างลอนดอนอีกนะ เมลเบิร์นเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องความปลอดภัยและความเป็นอยู่ที่สบาย เป็นมิตร และไม่วุ่นวาย อีกทั้งยังได้คะแนน “สัดส่วนนักศึกษา” เต็ม 100 อีกด้วย
6th Sydney, Australia
เมืองหลวงของรัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย ที่ได้คะแนนโดยรวม 95.4 ซึ่งคะแนนแต่ละช่องก็มีความไล่เลี่ยเท่า ๆ กับเมลเบิร์นเลย ซึ่งสิ่งที่จะแตกต่างกันเป็นหลักคือเป็นเรื่องของไลฟ์สไตล์ ซิดนีย์จะมีสีสันและสถานที่ท่องเที่ยวเยอะกว่าในเมลเบิร์น
13th Edinburgh, United Kingdom
เมืองเอดินบะระที่ตั้งอยู่ในประเทศสกอตแลนด์ ใครที่สนใจอยากเรียนต่อใน UK แต่ไม่อยากไปอยู่ที่อังกฤษ เมืองนี้ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีอันดับ 1 เลย เพราะที่นี่ได้คะแนน Overall Score ถึง 90.5 ซึ่งสิ่งที่เอดินบะระดีกว่าลอนดอนคือมีคะแนน “สัดส่วนนักศึกษา” ที่สูงกว่า และมี “ความคุ้มค่าและราคาที่เอื้อมถึง” มากกว่า
- British Study Centres
- Kaplan International Languages เป็นต้น
16th Boston, United States
เมืองหลวงของรัฐแมสซาชูเซตส์ในสหรัฐอเมริกา ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่เหมาะกับการเรียนต่อที่สุดอันดับ 1 ใน USA เนื่องจากได้คะแนนสูงสุดถึง 89 คะแนน จุดเด่นของบอสตันคือมีอัตราการจ้างงานสูงและผู้ว่าจ้างมีคุณภาพ และถึงจะเป็นอันดับที่ 16 ของโลก แต่ในเมืองบอสตันก็มีมหาวิทยาลัยชั้นนำอยู่มากมาย
- The New England School of English
- EC English Language Centres
- Language Studies International เป็นต้น
18th New York, United States
มหานครนิวยอร์ก เมืองแห่งแฟชั่น ความบันเทิง ธุรกิจระดับโลก และยังติดอันดับต้น ๆ ของเมืองที่น่าไปเรียนต่ออีกด้วย ด้วยคะแนน Overall สูงถึง 87.4 ซึ่งคะแนนแต่ละช่องสูงมาก ใครที่กำลังลังเลใจอยู่ เริ่มเก็บข้อมูลมหาวิทยาลัยใน NYC ได้เลย โอกาสในการสร้างประสบการณ์ชีวิตที่ดีอยู่ที่นี่แล้ว
ทั้งหมดนี้คือรายชื่อและข้อมูลเมืองที่เหมาะกับการไปเรียนต่อคร่าว ๆ ซึ่งอ้างอิงจาก QS Best Student Cities 2025
ถ้าอยากได้คำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ ก็สามารถติดต่อกับพี่ ๆ Hands On ได้เลย พี่พร้อมดูแลและบริการวางแผนการเรียนต่อต่างประเทศให้ฟรี