ถึงคิวของน้อง ๆ ที่อยากเรียนต่อในสาขา Management & Marketing ในบทความนี้จะพามาเก็บตกข้อมูลจาก Alumni Panel Discussion กับการพูดคุยกับรุ่นพี่นักเรียน Hands On ศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยดังในอังกฤษในหัวข้อ “Study Management & Marketing in the UK” แบบได้ข้อมูลครบทุกประเด็นและน้อง ๆ ที่อยากเรียนต่อจำเป็นต้องรู้ ทั้งข้อมูลคอร์สและมหาวิทยาลัย ขั้นตอนการเตรียมตัวเรียนต่อ เนื้อหาการเรียนแบบเจาะลึก ไลฟ์สไตล์ความเป็นอยู่ในแต่ละเมือง ทุกข้อมูลเรียนต่อในสัมมนานี้สรุปให้อ่านไว้ในบทความเดียว เหมือนได้นั่งฟังพี่ ๆ ศิษย์เก่าเม้าท์กันแบบครบรส ครบทุกประเด็นเรียนต่ออย่างแน่นอน
- เหตุผลของพี่ ๆ ที่เลือกเรียนคอร์สและมหาวิทยาลัยนี้
- รีวิวเนื้อหาในแต่ละคอร์สเรียน
- รีวิวข้อดีของแต่มหาวิทยาลัย
แนะนำรุ่นพี่ Hands On ศิษย์เก่าม.ดังจากอังกฤษ
เหตุผลของพี่ ๆ ที่เลือกเรียนคอร์สและมหาวิทยาลัยนี้
University of Reading – MSc Marketing (Digital Marketing)
“Digital Marketing ดูเป็นคอร์สที่เหมาะสำหรับเด็กไทยหลาย ๆ คนที่ไปเรียนต่อด้วยครับ ก็เลยลองไป เรียนต่อ ที่นี้ตัวที่เราอยากไปคือ University of Reading เพราะ 1. เป็นเมืองที่ใกล้ London 2. ไม่ต้อง Require ในเรื่องของตัว Theory ที่เป็น Basic of Marketing มาก่อนเลยก็สามารถไป Take Course ได้ อย่างที่เขาบอกว่าเป็นมหาวิทยาลัยที่ถ้าคุณไม่ได้จบ Marketing มาก็ไม่ต้อง Worry เรื่องนี้เหมือนกัน เลยรู้สึกว่าเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์เราถึงเมือง Reading อาจจะใหญ่สู้เมืองอื่น ๆ ไม่ได้ แต่ข้อดีของ Reading คืออยู่ใกล้ London มาก เอาเป็นว่าถ้าใครอยากไปเรียนเมืองที่ไม่ได้อยู่ในตัว London ที่นี่ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ตอบโจทย์ เพราะว่าคนไทยก็ค่อนข้างไปเรียนเยอะพอสมควรเหมือนกันครับผม” |
University of Leeds – MSc International Marketing Management
“ที่ University of Leeds ของนิ้งเป็น International Marketing Management ซึ่งทำให้นิ้งสนใจมาก เพราะว่าที่นี่เขาสอนเราทั้ง Marketing ทั้ง Management แล้วก็ University of Leeds ตอนมาเนี่ย Ranking ในปีที่นิ้งไปค่อนข้างสูง แล้วเราก็ค่อนข้างเชื่อถือในมหาวิทยาลัยว่า ถ้าเราจบจากมหาวิทยาลัยนี้กลับไปไทยยังไงเราก็มีงานทำแน่นอน เพราะฉะนั้นชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยก็สำคัญในการเลือกค่ะ เมือง Leeds มีทั้งมุมที่เงียบสงบ แต่ก็จะมีมุมที่มีแสงสีเสียงเหมือนกัน มันอาจจะไม่ได้เล็กสุด แต่ก็ไม่ได้ใหญ่ขนาด Manchester ขนาดเมืองกำลังพอดีเลย เราสามารถเดินเที่ยวได้เลย” |
The University of Manchester – MSc Marketing
“ทรายรู้สึกว่า Objectives ของการไปเรียนต่อคือไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศ รู้สึกว่าอยากไปอยู่เมืองที่เราจะมีความสุข ตอบโจทย์ Lifestyle ชีวิต แล้วก็ไม่อยากไป London เพราะว่าแพง (หัวเราะ) ก็เลยลองดูว่า Second London คืออะไร เลยถามพี่ Hands On นี่แหละว่าอะไรที่จะเหมาะกับคนที่ชอบ Activity เยอะ ๆ Extrovert อยากเจอคนเยอะ ๆ ทำ Activity ตลอดเวลา มีงานให้ทำ อะไรแบบนี้ ก็เลยมาลงที่ Manchester ค่ะ ประสบกับว่าพอไปดู Module ของเขาก็โอเคนะ มีทั้ง Fundamental Marketing, Strategy และ Specialize อย่าง Digital แล้วก็ Service Marketing Retail ทุกสายของ Marketing เลยที่เราเลือกได้ ก็เลยจบที่ Manchester ค่ะ” |
University of Bath – MSc Management
“ของแน๊ตที่เลือก Bath เพราะส่วนหนึ่งคือพี่ชายเคยไปเรียน ซึ่งตอนนั้นเคยไปหาเขาหลายครั้ง ก็รู้สึกประทับใจเกี่ยวกับเมือง และถ้าพูดถึงปัจจุบันในด้าน Management กับ Marketing สำหรับ Ranking ก็ถือว่าค่อนข้างดี ตอบโจทย์ครบ 3 ข้อเลย แล้วก็เมืองซึ่งถ้าเป็นสาย Introvert นี่ก็จะเหมาะกับ Bath มากกว่าค่ะ ชอบเมืองสงบ ๆ ไม่วุ่นวายเกิน และมีของครบ ซึ่งครบทุกอย่างจริง ๆ เป็นเมืองที่อยู่แล้วรู้สึกว่าไปเที่ยวที่ไหนก็ยังรู้สึกว่าเมืองเราอยู่สบาย และรักเมืองที่สุดเลยค่ะ” |
รีวิวเนื้อหาในแต่ละคอร์สเรียน
ใครที่จะเรียน Marketing Global หรืออะไรต่าง ๆ ในเทอม 1 ทุกคนจะเรียนเหมือนกันหมด ก็คือเราจะไม่ได้มีการ Specific Digital Marketing ตั้งแต่เทอมแรก เราจะปูพื้นฐานด้าน Business and Marketing ทั้งหมดเลยนะครับ
จะมีพวกตัว Digital Marketing เข้ามาเกี่ยวแล้ว และมีวิชาที่เป็นวิชาเลือก ให้เราเลือกว่าอยากไปต่อ Finance มั้ย หรือว่าเราอยากรู้บางอย่างในด้านของ Management หรือเปล่า นอกจากตัว Digital Marketing แล้ว เราก็จะมีพวกตัว Web Analytic ที่สอนพวก SCO (Social Content Optimization), การยิง Ad, SCM (Supply Chain Management) ต่าง ๆ และการทำเว็บไซต์ แต่หลัก ๆ แล้วความเป็น Digital Marketing ของ Reading จะไม่ได้เรียนหนักอะไรครับ
ที่นี่จะทำเป็น Dissertation อาจารย์ที่ปรึกษาหรือ Adviser เพราะค่อนข้างช่วยเหลือเราตลอด มีการนัด Meeting กับเราทุก ๆ Week เลย ซึ่งตัว Dissertation อยากจะแนะนำทุกคนว่าอยากให้เลือกหัวข้อที่ชอบจริง ๆ เพราะว่ามันจะต้องอยู่กับเราไปอีก 3 เดือนเต็ม ๆ แล้วก็พยายามว่าถ้าเราชอบ แต่ไม่ถนัดก็แอบยากเนอะ ก็พยายามเลือกสิ่งที่ชอบและถนัดด้วย เพราะฉะนั้นการเลือกหัวข้อในการทำ Thesis จบมันก็สำคัญกับเรามาก อยากให้เราลองดูอีกทีด้วยครับ |
ในเทอมแรก จะมี Principles Marketing, Global Marketing และก็จะเจอพวก Marketing Strategy เขาก็จะสอนทั้งหมด คนที่ยังไม่มีพื้นฐานก็จะค่อย ๆ เติบโตจากเทอมแรกนี่แหละ
ของเราจะค่อนข้างแตกต่างจากที่อื่นนิดหนึ่ง ตรงที่ว่าของเราจะมีการทำ Project กับบริษัทเลย อันนี้จะเป็นอีกวิชาหนึ่งเลยใน เทอมที่ 2 ที่เขาบังคับเลยว่าเด็กทุกคนของเขาจะต้องแบ่ง Group และ Group นั้นจะต้องทำงานให้กับบริษัทหนึ่ง และบริษัทนั้นก็จะเป็นคนให้โจทย์เรามาว่าเราจะต้องทำอะไร สมมติจะ Explain Market ไปที่ประเทศไหน เราจะไม่สามารถเลือกได้ เป็นการจำลองว่าเราเป็นหนึ่งใน Marketing ของเขาเลย แล้วก็ต้องคุยกับ Marketing Director เขาจริง ๆ อันนี้ก็เป็นสิ่งที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ใน มีวิชา Marketing Analytic ที่ทุกคนจะได้เรียนเหมือนกัน และมีวิชาเลือกว่าเราจะเลือกไปที่ Social Media Marketing, Digital Marketing หรือว่าอยากจะเรียนเกี่ยวกับ Advertising แต่เราเลือก Digital Marketing เพราะเรารู้สึกว่า Social Media และ Application เดี๋ยวมันก็เกิดขึ้นใหม่ได้ตลอดแต่ Digital Marketing มันยั่งยืนกว่า เพราะเราจะต้องเรียนในส่วนของการยิง Ad ซึ่งถ้าเราจะกลับมาที่ไทย ยังไงเราก็ต้องได้ใช้ Digital Marketing อยู่แล้ว เลยรู้สึกว่า Module นี้สำคัญมาก |
เรียน Fundamental และ Research มี 4 วิชาหลัก ๆ คือ Fundamental Marketing, Marketing Strategy, Qualitative Research และ Quantitative Research จะเน้นไปทางปูพื้นฐานและการเก็บข้อมูลทำวิจัยทางการตลาดค่ะ
เลือกได้ว่าอยากเรียนอะไรค่ะ ใครอยากจะไปสาย Analytic ก็ได้ หรือ Service Marketing Retail, Advertising หรือว่าจะไปทาง Global Marketing ก็มีให้เลือก อันนี้ก็แล้วแต่ว่าใครอยากจะจัดสรรเวลายังไง และชอบอะไร
คือ Dissertation หรือ Group Business Project ค่ะ ก็สามารถเลือกได้ว่าอยากทำ Dissertation หรือทำ Group Business Project ถ้าอยากเลือก Dissertation ก็ทำคนเดียว กลับไทยก่อนได้ แต่ถ้าทรายเองเลือก Group Business Project ก็คือมี Client เข้ามาในมหาวิทยาลัย ซึ่งเขา Co-partner กัน แล้วเราก็ไปทำ Marketing Strategy ให้เขา แล้วแต่โจทย์ที่เราเลือก แล้วก็ได้คุยกับ Marketing Director ของบริษัทนั้นจริง ๆ แบบ Face to Face เลยสนุกดี |
เทอมแรกจะเป็น Fundamental ก็มีทั้ง Accounting Finance, Human Resources, Operation Management และ Marketing ด้วยค่ะ หลัก ๆ คือจะเป็นวิชาที่ทำให้เราเห็นภาพรวมของ Corporate สมมติถ้าไม่มี Background การเรียนสาย Business มาเลย ก็คิดว่าทำให้เห็นภาพรวมว่ามีอะไรบ้างที่จะสร้างบริษัทหนึ่งขึ้นมา
เลือกได้ว่าสนใจ Specialize Finance ได้ หรือสนใจ Specialize Marketing ก็ได้ เหมือนว่ามันมีทางเลือกให้มากขึ้น ซึ่งเราอาจจะมาค้นพบทีหลังก็ได้นะ แบบตั้งใจไปเรียน Marketing แต่ว่าพอเรียน Aggregation Management อยากมาสายนี้ก็สามารถเจาะลึกได้ เพราะว่าเขาจะมี Unit ให้เราเลือก มีวิชาหลากหลายให้เราเลือก แล้วตอนที่ได้ใบจบก็จะสามารถเขียนไว้ด้วยได้เลยว่า Specialize ในด้านไหนค่ะ
คือมีให้เลือกระหว่าง Dissertation หรือเราเรียกเป็น Practice Track ซึ่ง Practice Track จะเป็นการทำงาน Project ซึ่งทางมหาวิทยาลัยจะจับกลุ่มให้เรา เลือกบริษัทที่เราจะต้องไปแก้ไขปัญหาให้เขานั้น เราจะได้ทำ 2 Project ใน Practice Track ซึ่งเลือกอันนี้แล้วเป็นประสบการณ์ที่ดีนะ ทำงานกับต่างชาติด้วย Culture ที่ไม่เหมือนกันก็ต้องปรับตัว รู้สึกว่าเป็น Challenge ที่รู้สึกว่าถ้าเกิดได้ไปจริง ๆ ก็สนับสนุนให้เลือกอะไรที่เราไม่มีโอกาสจะได้ทำ รู้สึกว่าได้เรียนรู้อะไรใหม่ ๆ เยอะ
|
รีวิวข้อดีของแต่มหาวิทยาลัย
|
|
|
|