Nottingham เมืองเล็กๆ ที่น่ารัก

สวัสดีค่ะ หลังจากที่ภาได้นำเที่ยวในเมือง Birmingham ซึ่งเป็นเมืองที่ภาอยู่ไปแล้ว คราวนี้ก็ถึงคิวของเมืองเล็กๆ น่ารักที่มีเสน่ห์อย่าง Nottingham กันบ้างค่ะ เมืองนี้อยู่ถัดขึ้นไปทางเหนือของ Birmingham เพียงเล็กน้อยค่ะ ใช้เวลาเดินทางจาก Birmingham ประมาณชั่วโมงกว่าๆ เท่านั้น แต่ถ้ามาจากลอนดอนก็จะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงค่ะ

Nottingham เป็นเมืองเล็กๆ ที่สามารถเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับได้ แต่ถ้าใครอยากจะเที่ยวแบบเพลินๆ ไม่เร่งรีบ ก็แนะนำว่าค้างสัก 1 คืนก็กำลังเหมาะนะคะ ราคาโรงแรมที่พักในตัวเมืองของที่นี่ก็ไม่แพงมาก ห้องพักสำหรับ 2 คนตกอยู่ที่ประมาณ 40 ปอนด์ ต่อคืนค่ะ

และสำหรับบทความบล็อคนี้ ภาก็มีสถานที่เที่ยวที่น่าสนใจมาแนะนำเพื่อนๆ นั้นมีด้วยกัน 4 แห่งด้วยกันค่ะ

ตามรอย Robin Hood

ถ้าพูดถึง Nottingham สิ่งแรกที่หลายๆ คนนึกถึง คงจะหนีไม่พ้นตำนานวีรบุรุษโรบิน ฮู้ด (Robin Hood) อันเป็นที่รู้จักกันดี นั่นก็เพราะเมืองนี้เป็นเมืองต้นกำเนิดของตำนานนั่นเองค่ะ เรียกได้ว่าเป็นจุดขายที่ขึ้นชื่อที่สุดของเมืองนี้แล้ว ถ้ามา Nottingham ก็ต้องไม่พลาดที่จะมาแวะถ่ายภาพกับรูปหล่อทองเหลืองโรบิน ฮู้ด (Robin Hood Statue)  ซึ่งตั้งอยู่ในเขตตัวเมืองไม่ไกลจากสถานีรถไฟ ถ้าเพื่อนๆ เดินทางมาถึงโดยรถไฟก็สามารถเดินจากสถานีได้ค่ะ โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที ภาแนะนำให้เดินเส้นทางเดินเลียบคลอง Nottingham Canal แล้วค่อยเดินเลี้ยวขวาตัดขึ้นถนน Wilford Street ก็จะได้ชมบรรยากาศเมืองที่หลากหลายไม่จำเจค่ะ

สำรวจปราสาท Nottingham Castle

ไม่ไกลจากลาน Robin Hood Statue ก็เป็นที่ตั้งของ Nottingham Castle อันเก่าแก่ที่มีอายุกว่าพันปี (ก่อสร้างปี ค.ศ.1068) ซึ่งเพื่อนๆ ต้องเสียค่าเข้าชมในราคานักเรียนอยู่ที่ 6 ปอนด์ต่อคน ตัวปราสาทตั้งอยู่บนเนินเขา ทำให้สามารถชมวิวเมืองได้จากบริเวณปราสาท ช่วงที่ภาไปนั้นเข้าฤดูใบไม้ผลิแล้ว ทำให้สวนรอบๆ ปราสาทเต็มไปด้วยดอกไม้กับต้นไม้เขียวชะอุ่ม บรรยากาศดีมากเลยค่ะ

ส่วนภายในปราสาทนั้นเค้าได้ปรับเปลี่ยนให้เป็นพิพิธภัณฑ์และหอศิลปะ โซนที่รู้สึกประทับใจและคิดว่าเพื่อนๆ โดยเฉพาะบรรดาสาวๆ น่าจะถูกอกถูกใจก็คือโซนที่จำลองบรรยากาศยุคโบราณ พร้อมกับมีชุดเสื้อคลุมให้เราได้ลองแต่งองค์ทรงเครื่องเป็นโรบินฮู้ด ถ่ายรูปเล่นกับฉากน่ารักๆ หลายมุมเลยทีเดียว ภากับเพื่อนขลุกกันอยู่ในห้องนี้นานมากเลยล่ะค่ะ

สีสันใน Old Market Square

หลังจากได้ย้อนอดีตไปกับ Nottingham Castle แล้ว เราก็กลับมาเดินเล่นชมบรรยากาศในตัวเมืองของ Nottingham กันบ้างดีกว่าค่ะ อย่างที่บอกไป ว่าเมืองนี้เป็นเมืองขนาดไม่ใหญ่มาก ดังนั้นเพื่อนๆ สามารถเดินชมเมืองโดยรอบได้อย่างสบาย ใช้เวลาไม่นานก็สามารถเก็บสถานที่สำคัญของเมืองนี้ได้ค่อนข้างครบโดยไม่รู้สึกเหนื่อยจนเกินไป

วันที่ภาไปอากาศค่อนข้างดี บรรยากาศในย่านจตุรัสจึงคึกคักมีชีวิตชีวา แต่ละคนพร้อมใจกันออกมาเดินเล่น นั่งอาบแดด ทำกิจกรรมกลางแจ้งกันเต็มไปหมด ในระแวกจตุรัสถ้าลองเดินเลยขึ้นไปบนถนน King Street ทางทิศเหนือ ก็จะเจอกับรูปหล่อทองสัมฤทธิ์ของคุณ Brian Clough บุคคลซึ่งเป็นอดีตผู้จัดการทีมฟุตบอลในตำนานของอังกฤษตั้งตระหง่านอยู่สุดปลายถนน เพื่อเป็นเกียรติประวัติที่เขาเคยทำไว้

เสน่ห์อีกอย่างที่พบได้จากย่านคนเดินของเมือง Nottingham ก็คือตรอกซอกซอยเล็กๆ ที่ซ่อนอยู่แบบที่ถ้าไม่ทันสังเกต เราก็อาจเดินผ่านเลยไป แต่ถ้าได้ลองเดินซอกแซกเข้าไปดูก็จะพบบรรยากาศน่ารักให้เราได้แปลกใจ อย่างเช่นตรอกเล็กๆ ที่ภากับเพื่อนเดินหลงกันเข้าไปกันนั้นก็เต็มไปด้วย street art สวยๆ ที่เราสามารถเดินชมเก็บบรรยากาศ แถมยังสามารถใช้เป็นฉากหลังสำหรับถ่ายรูปกันได้อีกค่ะ

สำหรับเพื่อนๆ ที่ชอบงานศิลปะ ภามีงานศิลป์อีกชิ้นหนึ่งที่ขึ้นชื่อของ Nottingham มาแนะนำ เป็นงานที่มีชื่อเสียงงานหนึ่งของเมืองนี้ มีชื่อว่า Sky Mirror ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจาก Old Market Square นัก ใช้เวลาเดินประมาณ 10 นาทีก็ถึงค่ะ

Wollaton Hall and Deer Park

สถานที่ท่องเที่ยวที่สุดท้ายที่ตั้งใจนำเสนอก็คือ Wollaton Hall and Deer Park ค่ะ จากตัวเมืองเพื่อนๆ สามารถเดินทางโดยนั่งรถบัสไปได้หลายสาย เป็นต้นว่าสาย 21, 35, 35B, 36 ค่ะ โดยใช้เวลาเดินทางประมาณครึ่งชั่วโมง แต่สำหรับภาที่คลั่งไคล้การเดินเที่ยวแล้ว แน่นอนว่าภาเลือกเดินไปค่ะ! ซึ่งใช้เวลาประมาณชั่วโมงกว่าๆ หรือประมาณ 5 กิโลเมตร ระหว่างทางก็ได้ชมบรรยากาศย่านที่อยู่อาศัยของชาวเมือง Nottingham และต้นไม้ดอกไม้ริมทางที่มีให้ดูเป็นระยะ

Wollaton Hall and Deer Park เป็นคฤหาสน์เก่าแก่สร้างตั้งแต่ปี ค.ศ. 1588 ตัวคฤหาสน์ทห้อมล้อมไปด้วยสวนกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา ปัจจุบันตัวคฤหาสน์ได้รับการปรับเปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาให้เพื่อนได้เดินศึกษาฟรีภายใต้บรรยากาศอาคารโบราณ

นอกจากคฤหาสน์หลังงามแล้ว อีกหนึ่งจุดเด่นของ Wollaton Hall and Deer Park ก็คือสวนโดยรอบค่ะ เพื่อนๆสามารถสัมผัสกับความยิ่งใหญ่อลังการของต้นไม้และธรรมชาติได้ตั้งแต่ทางเดินเข้าที่มีต้นไม้ใหญ่ปลูกเรียงรายตลอดทางเดิน และหากโชคดีก็จะได้เจอกับฝูงกวางเดินเล็มหญ้าอยู่ภายในสวน ซึ่งกวางพวกนี้เป็นกวางป่าค่ะ เพราะฉะนั้นเราไม่ควรเข้าไปใกล้ฝูงมันมากนักเพราะอาจเกิดอันตรายได้ และเนื่องจากที่นี่มีสวนให้เพื่อนได้เดินเล่นได้ตลอดทั้งวัน ดังนั้นช่วงฤดูใบไม้ผลิถึงช่วงฤดูร้อนจึงเป็นช่วงที่เหมาะกับการมาเยี่ยมชมที่นี่ และถ้าใครอยากจะสัมผัสกับทุ่งดอกไม้สีม่วงท่ามกลางต้นไม้ใหญ่อย่างที่ภาได้สัมผัสก็แนะนำว่าควรมาช่วงเดือนพฤษภาคมค่ะ

ฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนเป็นช่วงเวลาที่เหมาะกับการเที่ยวชมธรรมชาติมากๆ ค่ะ ดังนั้น ถ้าเป็นไปได้…นับตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมเรื่อยไปจนถึงปลายกรกฎาคมภาอยากให้เพื่อนๆ ลองจัดสรรเวลาหาจังหวะเที่ยวพักผ่อนจากการเรียนดูบ้างค่ะ เพราะการเที่ยวก็ถือเป็นการเรียนรู้อีกรูปแบบหนึ่งที่ได้ทั้งความรู้และความสนุกไปพร้อมๆ กัน แล้วลองแวะมาเที่ยว Nottingham เมืองเล็กๆ ที่น่ารักแห่งนี้กับบ้างนะคะ

สนใจเรียนต่อ University of Birmingham ลงทะเบียนเพื่อรับข้อมูลเรียนต่อและคำปรึกษาจากพี่ๆ Hands On ตัวแทนมหาวิทยาลัยอย่างเป็นทางการประจำประเทศไทย ฟรี คลิก