สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ ที่สนใจมาเรียนต่อทุกคนนนน เราชื่อแนทนะคะ เป็นนักศึกษาปริญญาโทของ University of Bath ตอนนี้กำลังเรียน Pre-sessional Course อยู่ค่ะ อย่างที่ทราบกันดีว่าการเรียน Pre-sessional บางครั้งจะมีวันว่างหรือเรียนแค่ครึ่งวันอยู่บ้าง ดังนั้นในช่วงเวลาชิล ๆ แบบนี้ แน่นอนว่าเราต้องวางแผนเที่ยวกันค่ะ!
บทความนี้แนทจึงขอมาเล่าทริปการไปท่องเที่ยว Bristol! เมืองที่ใช้เวลาเดินทางโดยรถไฟเพียง 10 นาทีจาก Bath เท่านั้น แถมยังเป็นเมืองที่มีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลาย เที่ยวได้แบบสบาย ๆ และสามารถไปซ้ำได้เรื่อย ๆ การันตีจากเราเองค่ะ ที่ถึงแม้จะอยู่อังกฤษแค่ 3 สัปดาห์ แต่ได้ไปเมืองนี้มาแล้วถึง 2 ครั้งด้วยวิธีเดินทางที่แตกต่างกัน แนทจึงขอมาแนะนำวิธีการเดินทางด้วยรถไฟและรถบัสกันในบทความนี้ค่ะ
ทริปแรกของเรากับการเดินทางไป Bristol เพื่อไปเข้าร่วมเทศกาล Bristol International Balloon Fiesta
เมื่อนึกถึง Bristol หลาย ๆ คนอาจนึกถึงเทศกาล Bristol International Balloon Fiesta เช่นเดียวกับครอบครัวเราค่ะ ในเมื่อเราเดินทางไปอังกฤษในช่วงที่มีเทศกาลพอดี ครอบครัวเราจึงพลาดไม่ได้ที่จะวางแผนเดินทางไปเทศกาลนี้ค่ะ โดยทริปนี้เราเดินทางโดยรถบัสจาก Bath ไป Bristol และนั่งรถบัสเอกชนจากตัวเมือง Bristol ไปยังเทศกาล Bristol International Balloon Fiesta ค่ะ
มาเริ่มกันที่ขั้นตอนการจองรถบัสการ Bath ไปยัง Bristol ค่ะ ในความจริงแล้วเราไม่มีความจำเป็นต้องจองรถบัสในการเดินทางนะคะ เราสามารถไปยังป้ายรถบัสของรถบัสสายนั้น ๆ แล้วสามารถจ่ายเงินขึ้นรถบัสได้เลย โดยสายรถบัสจาก Bath ไปยัง Bristol คือสาย X39 ซึ่งจุดที่สามารถขึ้นรถบัสได้ง่ายที่สุด คือ Bath Bus Station ช่องเบอร์ 12
Bath Bus Station จะอยู่ใกล้ ๆ กับ Bath Spa station สามารถไปยืนต่อคิวเพื่อรอขึ้นรถบัสได้เลยค่ะ แต่หากต้องการขึ้นที่จุดอื่นก็สามารถทำได้เช่นกัน โดยสามารถเช็กเส้นทางเดินรถได้ทางแอปพลิเคชัน First Bus ค่ะ และถ้าหากใครต้องการจองตั๋วหรือซื้อตั๋วรถบัสก็สามารถทำผ่านแอปฯดังกล่าวได้เช่นเดียวกันค่ะ
การเดินทางออกจากเมือง Bath ไปยัง Bristol จาก Bath Bus Station โดยรถบัสสาย X39
- ค่าเดินทางเที่ยวละ ~ £2.4
- ใช้เวลาในการเดินทาง ~ 1 ชั่วโมง
First Bus Application
รูปซ้าย: เช็กเส้นทางการเดินรถ, ตารางเวลาเดินรถได้
รูปขวา: ซื้อตั๋วในแอปได้ทั้งแบบ Single, Day, Week, Month หรือแม้กระทั่ง Year
ในทริปนี้นอกจากได้ไปเทศกาล Bristol International Balloon Fiesta แล้ว เรายังวางแผนไปเที่ยวในตัวเมืองอีกด้วย แนทจึงเลือกที่จะลงป้าย Bristol Bridge ซึ่งใกล้กับ Queen square มากที่สุด
Queen Square
Queen square เป็นสถานที่ที่เดินไม่ไกลจากป้าย Bristol Bridge มีทั้งห้างเล็ก ๆ ชิงช้าสวรรค์และคาเฟ่ เราสามารถพักผ่อนและเข้าห้องน้ำได้สบาย ๆ ในส่วนด้านข้างก็มี Bay ให้ถ่ายรูปเช็กอินกันได้ด้วยยย
ปล. ห้องน้ำเป็นสิ่งที่สำคัญมากนะคะทุกคน ถ้าเจอให้รีบเข้าก่อนที่เราจะไม่เจออีกเลย 
เมือง Bristol เป็นเมืองขนาดไม่ใหญ่มากค่ะ หลังจากนี้เราจึงใช้วิธีการเดิน เพื่อไปยังสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ต่อ เช่น Bristol Cathedral, St. Nicholas Market และ M Shed ค่ะ ซึ่งทั้ง 3 สถานที่ที่กล่าวมาทั้งหมดไม่เสียค่าเข้าชมค่ะ
Bristol Cathedral สถานที่ที่แม้จะได้รับความเสียหายจากสงคราม แต่ยังคงสวยงาม
M Shed
พิพิธภัณฑ์แห่งเมือง Bristol ที่บอกเล่าเรื่องราวทั้งของสถานที่, ผู้คน และการเมืองของเมืองนี้
หลังจากเที่ยวชมเมืองระดับนึงแล้ว เราก็เดินทางไปยังเทศกาล Bristol International Balloon Fiesta กันค่ะ โดยเราใช้วิธีจองรถบัสเอกชนในการเดินทางไปผ่านเว็บไซต์ของงาน เราจึงต้องเดินทางไปยังสถานีรถไฟ Temple Meads Railway Station เพื่อขึ้นรถบัสบริเวณนั้นค่ะ ซึ่งสามารถเดินทางไปสถานีรถไฟ Temple Meads Railway Station ด้วยรถบัสสาย X39 ได้เช่นเดิมค่ะ
รถบัสเอกชน ป้าย Bristol Temple Meads Station
- ค่าเดินทาง ไป-กลับ ตามภาพด้านบนเลย
- ใช้เวลาในการเดินทาง 10-15 นาที
เว็บไซต์: https://www.bristolballoonfiesta.co.uk/shuttle-bus-tickets
ระหว่างทางตอนนั่งรถบัสได้เห็น Clifton Suspension Bridge อยู่ไกล ๆ ด้วย
ใช้เวลาไม่นานรถบัสก็เดินทางมาถึงที่หมาย แต่ที่หมายที่ว่าไม่ใช่งาน Bristol International Balloon Fiesta นะคะ แต่เป็นทางขึ้นเขา
ใช่ค่ะ เราต้องเดินขึ้นเขาต่อเพื่อไปงานด้วยตัวเอง 🫠 เพราะฉะนั้นหากในทริปมีผู้สูงอายุไปด้วย แนทอยากบอกเลยว่าไม่แนะนำให้ไปมาก ๆ เพราะต้องเดินขึ้นเขาอีกหลายกิโลเลยค่ะ
ตึกสวยมากกกก เจอระหว่างทางเดินขึ้นแสนยาวไกล
หลังจากเดินหอบกันมานาน ในที่สุดก็ถึงงานค่ะ แต่ว่า ทำไมไม่เห็นมีบอลลูนเลย 🥲
ผลสรุปคือไปผิดเวลาค่ะ พวกเราไปในเวลาที่ไม่มีแสดงบอลลูน ซึ่งในความจริงแล้วพวกเราทราบนะคะว่าเวลาที่ไปไม่ใช่เวลาที่มีการแสดงบอลลูน แต่พวกเราก็คิดว่าอาจจะมีบอลลูนวางแสดงอยู่บ้าง (ภาพในหัวคือการแสดงบอลลูน = บอลลูนลอยขึ้นฟ้า ส่วนนอกเวลาแสดงบอลลูนจะมีบอลลูนตั้งอยู่ที่พื้น) ทำให้การไปดูบอลลูนรอบนี้ถือไม่ประสบความสำเร็จ แต่ไม่เป็นไรค่ะ ถือเป็นบทเรียนว่าให้ดูตารางเวลาแสดงดี ๆ ในครั้งต่อไป
โดยบรรยากาศในงาน นอกจากพระเอกนั่นคือบอลลูนแล้ว รอบ ๆ จะมีกิจกรรมให้เล่นมากมายเลยค่ะ อารมณ์เหมือนงานวัด มีซุ้มปาลูกโป่ง เครื่องเล่นเด็ก หรือแม้กระทั่งสวนสนุกที่มีเครื่องเล่นขนาดย่อม ราคาแต่ละเครื่องเล่นถือว่าแรงพอสมควร (ประมาณ £4-7)
จบไปแล้วกับทริปการเดินทางจาก Bath ไป Bristol โดยรถบัส ทริปนี้ถือว่าเป็นทริปเร่ง ๆ เพราะเรากลัวตกรถบัสไปงานบอลลูน 555555 ไปกันต่อกับทริปถัดไปคือการเดินทางไป Bristol โดยรถไฟค่ะ
ทริปนี้เป็นอีกทริปที่เกิดอย่างกระทันหัน แต่เนื่องจากการเดินทางไป Bristol นั้นไม่ใช่เรื่องยาก จึงตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว เราใช้วิธีจองรถไฟผ่านแอปพลิเคชัน TrainPal ค่ะ การจองรถไฟนั้นอาจจะซับซ้อนสักเล็กน้อย งั้นเรามาจองไปพร้อม ๆ กันค่ะ
- ขั้นตอนที่ 1: กดเลือกสถานที่ต้นทางและปลายทาง ซึ่งหากเดินทางจาก Bath จะเป็นสถานี Bath Spa และสถานีปลายทางคือ Bristol Temple Meads ค่ะ
- ขั้นตอนที่ 2: เลือกรายละเอียดอื่น ๆ เพิ่มเติม
- เลือกวัน-เวลาที่ต้องการจอง: หากต้องการจองทันทีก็สามารถทำได้นะคะ
- เลือกจำนวนคน: หากมีคนไปด้วยจำนวนมากจะได้ส่วนลดพิเศษ
- เลือก Promotion: หากมีบัตรลดต่าง ๆ สามารถใส่เพิ่มได้ ทั้งนี้เรามี Railcard ก็จะได้ส่วนลดเพิ่มเติม ~30%
และที่สำคัญที่สุด หากเดินทางไป-กลับวันเดียวกัน อย่าลืมกดเลือก Open-return ค่ะ เพราะว่า TrainPal สามารถกดจองไปกลับในวันเดียวกันได้ในราคาพิเศษ (ราคาใกล้เคียงกับการจอง Single) โดยเราไม่จำเป็นต้องรู้เวลาเดินทางกลับที่แน่นอน เพราะ การเลือก Open-return หมายความว่าเราจะเดินทางกลับกี่โมงก็ได้ค่ะ
- ขั้นตอนที่ 3: หลังจากกด “Find cheap tickets” เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แอปฯจะขึ้นรอบรถไฟที่มีให้เลือกนะคะ เมื่อเลือกรอบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เลื่อนลงมาด้านล่างจะมีตัวเลือกต่าง ๆ ให้เลือก เช่น
- Seat preferences: สามารถเลือกที่นั่งภายในรถไฟได้ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น ที่ติดหน้าต่าง, ที่นั่งหันหน้าไปทิศเดียวกับรถไฟ เป็นต้น
- Ticket collection: หากเลือกเป็น E-tickets จะได้เป็น QR code ใช้ในแอปฯได้เลยค่ะ แต่หากพิมพ์เป็นตั๋วจะต้องไปพิมพ์ที่สถานีต้นทางและปลายทาง
- Free changes & Refund: หากต้องการขอเงินคืนหรือเปลี่ยนแปลงการจองจะสามารถทำได้นะคะ แต่จะต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มในตอนจองตั๋ว (ราคาขึ้นอยู่กับราคาตั๋ว)
หากทำตาม 3 ขั้นตอนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สามารถกดยืนยันและชำระค่าตั๋วก็ถือว่าเสร็จเรียบร้อยค่ะ
ตัวอย่าง E-ticket จากแอป TrainPal ค่ะ
เมื่อจองตั๋วเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ถึงวันที่ต้องเดินทางค่ะ เราแนะนำให้ไปก่อนเวลา 15-20 นาทีนะคะ เพราะเวลาที่เขียนบนตั๋วคือเวลาที่รถไฟออกตัว ไม่ใช่เวลาเปิดประตูรถไฟ และบางครั้งรถไฟก็ออกก่อนเวลา 1-3 นาที ทำให้เสี่ยงที่จะตกรถไฟมาก ๆ ค่ะ
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 นาทีเท่านั้น เพียงพริบตาก็ถึงแล้ว
เนื่องจากทริปนี้เป็นทริปครั้งที่ 2 ของเรา จึงขอเล่าแค่สถานที่ที่ไปเพิ่มเท่านั้นนะคะ ในครั้งนี้เราจะเดินทางด้วยรถบัสสาย 8 เป็นหลักค่ะ (ขึ้น 2 รอบถ้วน) แต่อย่างที่กล่าวไปก่อนหน้านี้ว่าเมือง Bristol เป็นเมืองค่อนข้างเล็ก เพราะฉะนั้นเราไม่ได้จำเป็นต้องเดินทางด้วยรถบัสเสมอไปค่ะ
เริ่มกันที่ St. Mary Redcliffe Church สถานที่ที่เดินไม่ไกลจากสถานีรถไฟ Bristol Temple Meads และไม่เสียค่าเข้าอีกเช่นเคยค่ะ
St. Mary Redcliffe Church
ตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรม Gothic สีสันสวยงาม
ไปต่อกันที่สถานที่ห้ามพลาด (แม้ในทริปที่แล้วจะพลาดไปแล้วก็ตาม) นั่นคือ Bristol Museum & Art Gallery ที่ตั้งอยู่บริเวณ University of Bristol และที่มากไปกว่านั้นทางเดินขึ้นไปยังพิพิธภัณฑ์ยังตกแต่งสวยงามน่าถ่ายรูปอีกด้วย
Bristol Museum & Art Gallery
พิพิธภัณฑ์จัดแสดงกระดูกไดโนเสาร์และหินสวยงาม
มีการจัดแสดงสัตว์บกและสัตว์ปีกที่สตัฟฟ์ไว้จำนวนมาก
อีกทั้งยังมีการจัดแสดงศิลปะเสียดสีความไม่เท่าเทียมทางเพศอีกด้วย
ก็จบกันไปแล้วกับการรีวิวการเดินทางและสถานที่ท่องเที่ยวภายในเมือง Bristol แต่ก่อนจะจากกันไป ขอปิดท้ายด้วยการเปรียบเทียบวิธีการเดินทางด้วยรถบัสและรถไฟกันสักเล็กน้อยค่ะ
| การเดินทางด้วยรถบัส | การเดินทางด้วยรถไฟ | |
| ค่าใช้จ่าย | ~ £4.8 | ~ £6-7 หากมีบัตรส่วนลด ~ £10 หากไม่มีบัตรส่วนลด |
| เวลาในการเดินทาง | ~ 1 ชั่วโมง | ~ 10 นาที |
โดยสรุปแล้วหากเราไม่รีบมากนัก การเดินทางด้วยรถบัสยังคงคุ้มค่ากว่าหากไม่มีส่วนลดจากบัตร Railcard แต่หากสมัครบัตร Railcard เป็นที่เรียบร้อยแล้วการเดินทางด้วยรถไฟจะคุ้มค่ามากกว่าค่ะ
“ขอบคุณเพื่อน ๆ ทุกคนที่อ่านมาจนจบนะคะ อย่ามัวแต่เรียนจนลืมพักผ่อนกันล่ะะะ แล้วเจอกันบทความถัดไปค่ะ!” 