Hands On Education Consultants

รีวิวการเตรียมตัวเรียนต่อ MSc Finance ที่ The University of Warwick โดย Jane

พี่เจน รุ่นพี่นักเรียน Warwick ขอมาแชร์เคล็ดลับการเตรียมตัวเข้าท็อปยูของอังกฤษ The University of Warwick ให้อ่านกันในบทความนี้

Q1: ทำไมถึงเลือกเรียนคอร์สนี้ ก่อนหน้านี้มีพื้นฐาน Finance ไหม?

ก่อนหน้านี้เรียนบัญชีบริหารจุฬามาค่ะ แล้วก็เรียนเอก Finance มาตอนป.ตรีเลยมีพื้นฐานอยู่บ้าง เลือกเรียนคอร์สนี้เพราะ ตอนป.ตรีคือมันมีทั้งวิชาที่เรียนรวมภาคอื่นและก็มีวิชา Finance แค่ประมาณ 1-2 ตัวต่อเทอม เลยอยากเรียนลึกกว่าเดิม จากที่ไปเรียน MSc Finance ที่ Warwick Business School คือถ้าใครไม่มีพื้นฐานคิดว่าไม่ค่อยเป็นปัญหานะคะ เพราะเขามีปรับพื้นฐานให้กับคนไม่มีพื้นฐานมาก่อน เพื่อนที่มาเรียนก็หลายคนไม่ได้เรียน Finance มาก่อนก็มีค่ะ บางคนมาจากสาย Economics และไม่เคยแตะ Econometrics มาก่อนก็มี

Q2: การเตรียมตัว Pre-Arrival ของคอร์สก่อนเริ่มเปิดเทอม

 

ส่วนตัวคอร์สปรับพื้นฐานก่อนจะเริ่มเรียนจริงก็จะมี (1) Finance Booster Course เน้นสอนพวกการคิดดอกเบี้ยทบต้น, bond discount rate, สถิติและการเงินพื้นฐานค่ะ อันนี้สามารถเรียนได้ตั้งแต่ยังอยู่ไทยผ่านเว็บของคณะที่เขาจะแจ้งเลย (2) Math Refresher เรียนที่ตึกคณะพอมาถึงมหาวิทยาลัยแล้วค่ะ จะทวนแมทที่จำเป็นให้เรา ก็จะมีความน่าจะเป็น แคลคูลัส เมทริกซ์ ต่าง ๆ ในเชิงที่นำไปใช้กับ Finance ค่ะ (3) Pre-sessional excel เรียนที่ตึกคณะเหมือนกัน จะไม่ใช่การสอนเกี่ยวกับฟังก์ชั่นพื้นฐาน excel นะคะแต่จะสอนการทำ finance จ๋า ๆ กับ excel เลย เช่นการหา optimal weight สำหรับ portfolio ด้วย Efficient Frontier ซึ่งห้องที่ใช้สอนจะมีคอมเยอะมากเพียงพอสำหรับทุกคนแน่นอน

 

Q3: ทำไมเลือก The University of Warwick? เพราะก็มีหลายมหาวิทยาลัยที่เปิดสอน Finance

เลือกเพราะตัว Warwick Business School Ranking by subject Finance อยู่ Top 20 ของโลกค่ะ อ้างอิงจาก QS Business Masters Rankings 2025 และ Financial Times 2024 ซึ่งมหาวิทยาลัยทางฝั่งอเมริกาก็ตัดไปเพราะว่าเรียน 2 ปีค่าใช้จ่ายก็แพงกว่าสอง ในขณะที่ Warwick ก็คือทั้ง ranking ดี เป็นที่รู้จักอยู่แล้ว และก็ไม่ต้องสอบ GMAT GRE ค่ะ สำหรับปัจจัยสำคัญอื่น ๆ สำหรับการตัดสินใจเลือกมหาวิทยาลัยคือ

(1) เปรียบเทียบรายชื่อวิชา Compulsory Modules กับ Optional Modules ระหว่างมหาวิทยาลัยดูเอาค่ะ วิชาบังคับส่วนใหญ่จะไม่ต่างกันมากเท่าไหร่ ที่ให้ตัดสินใจได้คือวิชาเลือกค่ะ อย่างที่ Warwick เขามีวิชาเลือกที่หลากหลายและเฉพาะทางที่เจนสนใจก็คือ Big Data Analytics, Practice of Investment Management ที่มหาวิทยาลัยอื่นไม่มีก็เลยตัดสินใจเลือกมหาวิทยาลัย Warwick ค่ะ

(2) นอกจากเรื่องวิชา ก็จะมีเรื่องเปรียบเทียบสภาพตึกค่ะ บางคนอาจจะชอบเรียนในที่โบราณ ๆ แบบ Castle เก่าแก่แต่เจนชอบตึกที่ modern ทันสมัยเพราะมันดูสะอาด ใหม่ ซึ่ง Warwick ตอบโจทย์มากค่ะ

(3) เลือกมหาวิทยาลัยที่มี Business School เป็นของตัวเองด้วยเพราะรู้สึกเขาจะมี Facilities ที่จำเป็นสำหรับสาย Finance ให้เด็กครบครันกว่ามหาวิทยาลัยที่ต้องไปใช้ตึกรวมกับคณะอื่น อย่าง Warwick Business School ก็มีเครื่อง Bloomberg และ Refinitiv อย่างละ 5-6 เครื่องที่ตึกไปใช้ได้ตลอดเวลาเลยค่ะ

(4) ปัจจัยสุดท้ายคือเป็นมหาวิทยาลัยที่ไม่อยู่ในลอนดอน เพราะค่าครองชีพก็จะถูกลงกว่ามากค่ะ

 

Q4: ช่วงเตรียมตัวเรียนต่อ พี่ Hands On ช่วยอะไรเราบ้าง?

ตอนแรกหัวโล่งมากค่ะว่าต้องเริ่มจากตรงไหน พี่ ๆ Hands On จะช่วยดูแลและบอกเราทุกขั้นตอนเพื่อให้เราเรียงลำดับความสำคัญสิ่งที่เราต้องตัดสินใจถูก ซึ่งไม่มีค่าใช้จ่ายเลยค่ะ ขั้นตอนหลัก ๆ จะเป็น

(1) เลือกทวีปและลิสต์มหาวิทยาลัยที่มีคอร์สที่เราสนใจในทวีปนั้น ตอนแรกเจนสนใจอเมริกาเลยได้ พี่เมย์ ช่วยลิสต์รายละเอียดทุกอย่างที่จำเป็นมาให้เจนเลือกเยอะมากเลยค่ะ มีตั้งแต่ชื่อคอร์สที่มหาวิทยาลัยนั้นเปิดสอน ระยะเวลาที่เรียน Requirement ต่าง ๆ พวก GMAT GRE, GPA ขั้นต่ำ, TOEFL หรือ iELTs ขั้นต่ำ, ค่าเทอม ตอนหลังเจนเปลี่ยนเป็นจะไป UK แทนก็เลยได้พี่เลม่อนมาดูแลแทนซึ่ง พี่เลม่อนน่ารักมาก ๆ เลยค่ะ ก็โทรมาคุยถามเลยว่าอยากเรียนอะไร ซึ่งตอนนั้นเจนเลือกมาเรียบร้อยว่าอยากเรียน MSc Finance ที่ The University of Warwick

(2) จัดเตรียมเอกสารเพื่อยื่น พี่เลม่อนก็ช่วยลิสต์เอกสารที่ต้องใช้ยื่นให้หมดเลยค่ะ และก็เป็นคนยื่นให้เรียบร้อย คือเจนว่าดีกว่ายื่นเองตรงที่เรามีคนที่เชี่ยวชาญกว่ามา double check ว่าเอกสารที่ยื่นถูกต้องครบถ้วนไหม และก็ SoP ต้องแก้อะไรตรงไหนถึงจะดูดีขึ้นด้วยค่ะ

(3) ช่วยบอกรายละเอียดการตรวจปอด คืออังกฤษเขาให้มีใบยืนยันการตรวจปอดก่อนเข้าประเทศซึ่งก็จะต้องจองตรวจปอดค่ะ คือมันเป็นสิ่งที่เราไม่คุ้นเคยว่าต้องตรวจที่ไหนทำอย่างไร พี่เลม่อนก็บอกขั้นตอนมาละเอียดมากเลย

(4) ช่วยตรวจการกรอกยื่นขอวีซ่าและตรวจเอกสารต่าง ๆ เพราะการกรอกวีซ่านักเรียนบางจุดมันงงมากค่ะว่าเราถือว่าอยู่ในเกณฑ์ช่องไหน ก็จะกรอกตามที่พี่เลม่อนบรีฟมาเลยค่ะ

พอได้ Unconditional Offer และได้ VISA เรียบร้อยก็จบแล้วค่า แต่ระหว่างทางเจนมีคำถามเต็มไปหมด ตั้งแต่การจ่ายค่าเทอมผ่านแพลตฟอร์ม Flywire ที่ Warwick ใช้, การลงทะเบียน NHS ที่เหมือนเป็นการหาหมอที่อังกฤษ, statement เงินในบัญชีต้องทำไว้ประมาณไหน คือถามตลอดแล้วพี่เลม่อนก็ตอบมาละเอียดมาก ๆ เลย ขอบคุณมากจริง ๆ ค่ะ

 

Q5: ได้เข้าร่วมกิจกรรมอะไรที่พี่ Hands On จัดไหม?

ได้มีโอกาสไปร่วมงาน Pre departure ของ Hands On ที่สำนักงานใหญ่ตึกตรงสีลมอยู่ครั้งหนึ่งค่ะ พี่บรีฟละเอียดมาก ๆ ให้เห็นภาพ Timeline ว่าหลังจากได้วีซ่าต้องทำอะไรบ้าง พอไปถึงแล้วต้องโหลดแอปที่จำเป็นอะไรบ้าง (เช่น Uber, Deliveroo, Trainline, TrainPal) บอกเรื่องการเปิดบัญชีธนาคารที่อังกฤษ สัญญาณอินเตอร์เน็ตค่ายต่าง ๆ และก็ทำให้เรารู้จักร้านทั่วไปของที่อังกฤษว่าถ้าเราจะซื้อของทั่วไปให้ไปซื้อที่ไหน ก็เช่น Mark and Spencer, WHSmith ค่ะ จริง ๆ มีเรื่องอื่นอีกเยอะมากเลยค่ะเกี่ยวกับการใช้ชีวิตที่อังกฤษที่เราควรเตรียมตัวรับมือ ดีมากเลยและก็ฟรีด้วย นอกจากนั้นที่ขอบคุณมาก ๆ ก็คือมีการแจก Adapter และ ถุงผ้าไว้ซื้อของที่อังกฤษเพราะที่อังกฤษเขาไม่มีถุงให้ตอนไปซื้อ grocery แล้ว ซึ่งเจนใช้บ่อยมาก ๆ เลยค่ะถุง Hands On นี้

 

Q6: ของที่เจนคิดว่าจำเป็นต้องเอาไป

 

อย่างสุดท้ายคือเตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อมค่า ไปแรก ๆ จะต้องปรับตัวเยอะ ทั้งภาษา ความเหงา และการใช้ชีวิต แต่พอลงตัวแล้วทุกอย่างจะดีและเป็นประสบการณ์ที่ดีมาก ๆ เลยค่ะ ตั้งใจเรียนและอย่างลืมใช้ชีวิตให้สนุกนะคะ ขอให้มีช่วงเวลาที่ดีค่า

ใครอยากคำแนะนำเรื่องการสมัครไปเรียนต่ออังกฤษ กับ The University of Warwick ปรึกษาพี่ Hands On ได้เลย ฟรีทุกขั้นตอน!